ปัจจุบันเด็กเจน Y เจน Z ส่วนใหญ่ต่างมีความใฝ่ฝันอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตบนเส้นทางของการก้าวไปเป็นศิลปินนักแสดงหรือทำงานในวงการธุรกิจการแสดง ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังเวที แน่นอนว่าการเลือกเรียนสาขาวิชาศิลปะการแสดง จะช่วยเพิ่มพูนทักษะความรู้และความสามารถที่โดดเด่นของตนเองได้ แต่อาจจะไม่เพียงพอต่อความเปลี่ยนไปของสังคมยุคสื่อการตลาดดิจิทัล (Digital) ในปัจจุบันที่การแสดงคือศิลปะและเป็นธุรกิจการแสดงที่ไม่อาจแยกจากกันได้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตติศักดิ์ เกิดอรุณสุขศรี รองอธิการบดีฝ่ายสื่อสารการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) กล่าวว่า “ สาขาศิลปะและธุรกิจการแสดง (Performing Arts and Show Business) คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ของเรา โดดเด่นและแตกต่างจากการเรียนสาขาศิลปะการแสดงของสถาบันอื่นๆ ตรงที่ ‘เด็กการแสดง ม.หอการค้าไทย’ จะได้เรียนศิลปะการแสดงในความเป็น Art ที่ทรงคุณค่าและยังเป็นการเรียนธุรกิจการแสดงในแบบที่สร้างมูลค่าได้ด้วย มีทั้งองค์ความรู้ทางด้านศิลปะการแสดง (Performing Arts) ควบคู่ไปกับความรู้ในการทำธุรกิจ ( Show Business)ซึ่งจะเป็นบันไดก้าวไปสู่ความสุขและความสำเร็จอย่างยั่งยืน เราได้ปรับหลักสูตรของสาขาวิชาศิลปะและธุรกิจการแสดง โดยผสานศิลปะแห่งการแสดงเข้ากับเทคโนโลยีของโลกยุคดิจิทัล มีกิจกรรมเด่นทั้งทางวิชาการ กิจกรรมเพื่อสังคม กิจกรรมทางวัฒนธรรม กิจกรรมเพื่อเยาวชน เพราะต้องการสนับสนุนขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและบริการให้มั่นคงและยั่งยืนโดยผ่านการเรียนศิลปะและธุรกิจการแสดง สามารถต่อยอดทักษะการแสดงเข้ากับทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ละครเวที ละครทีวี ซีรีส์ ภาพยนตร์ คอนเสิร์ต วาไรตี้โชว์ นักแสดง นักร้อง นักเต้น เป็นต้น เมื่อเด็กได้เข้ามาเรียนที่สาขานี้แล้ว มีโอกาสได้เรียนกับโค้ชและผู้เชี่ยวชาญในสายงานการแสดงตัวจริง เรียนจากประสบการณ์จริงที่เข้มข้น จริงจัง เล่นจริง ทำจริงทุกพื้นที่ที่เราเปิดโอกาสการเรียนรู้ให้กับนักศึกษา เราเชื่อว่าเป็นสาขาวิชาที่ไม่มีวันตาย ยั่งยืนของเด็กรุ่นใหม่ที่ใจรักการแสดงและอยากจะมีอาชีพทางด้านการแสดงที่มีรายได้ดี มีความมั่นคงซึ่งเป็นค่านิยมที่เปลี่ยนไปในสังคมที่เคยเชื่อกันว่าเป็นศิลปินแล้วจะไส้แห้ง แต่จะได้ชื่อว่ามีเกียรติและมีกินอย่างแน่นอน”
อาจารย์ยุทธ อุทยานินทร์ หัวหน้าสาขาวิชาศิลปะและธุรกิจการแสดง คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเสริมว่า “ หลักสูตรศิลปะและธุรกิจการแสดงของเราเป็นแผนการศึกษาแบบ 3+1 เรียนจบใน 3 ปี ได้ปริญญาตรีศิลปะการแสดง B.F.A. (Performing Arts and Show Business) บวกอีก 1 ปี ได้ปริญญาโท การจัดการ M.B.A. (Management) จำนวนหน่วยกิตที่เรียนตลอดหลักสูตรปริญญาตรี 126 หน่วยกิต วิชาที่น่าสนใจก็จะมี การจัดการธุรกิจการแสดง การออกแบบฉากและเวที การออกแบบแสงและเสียงสำหรับการแสดง หลักการกำกับการแสดง การแต่งหน้าสำหรับการแสดง อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา นักแสดง ผู้กำกับ ผู้ควบคุมการผลิต ผู้จัดการแสดง ผู้จัดการกองถ่าย ผู้ประกาศ พิธีกร นักวิจารณ์ ซึ่งเราจะเรียนทักษะการแสดงแบบมืออาชีพ การกำกับการแสดง การเขียนบท การสร้างโชว์ การสร้างสรรค์การแสดง งานอีเว้นท์ (Events) ละครเวที ละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ การออกแบบฉาก แสง เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ การแต่งหน้า การสร้างตัวตนเพื่องานธุรกิจในสื่อโซเชี่ยล การประกอบการธุรกิจซับพลายเออร์ด้านการแสดง เช่น ธุรกิจการเช่าชุดการแสดง ธุรกิจจัดหานักแสดง ธุรกิจจัดการแสดงในงานอีเว้นท์ ทุกรายวิชาจะเน้นฝึกปฏิบัติจริงด้วยการทำงานโปรดักชั่นกับครูมืออาชีพในวงการ อย่างเช่นการได้เรียนวิชาการแต่งหน้าเพื่อการแสดงในรูปแบบต่างๆ กับครูขวด (มนตรี วัดละเอียด) เรียนกับผู้ประกอบการตัวจริงโดยตรง เช่น วิชาคาบาเร่โชว์หรือแม้แต่วิชาการแสดงหุ่นไทยและหุ่นสร้างสรรค์ที่ได้เรียนกับคณะละครหุ่นไทยชื่อดังอย่างโจหลุยส์ เรียนแล้วนำไปประกอบอาชีพได้จริงเพราะการเรียนการแสดงของ ม.หอการค้าไทย เน้นการสร้างธุรกิจและการประกอบอาชีพด้านการแสดง ในรายวิชาการแสดงสำหรับละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ เด็กการแสดง ม.หอการค้าไทยจะได้ทั้งความรู้เรื่องของการแสดงแบบ Art ที่ถูกต้องและการทำธุรกิจได้ด้วย บวกความถนัดทั้งศิลปะการละครและธุรกิจการแสดงหลากหลายประเภท การันตีได้ว่า จบแล้วรับงานได้ ขายงานปัง วางบิลเป็น”
สำหรับ นายพงศ์เทพ โพธิ์นิ่มแดง (ไกร) Admin Production ช่องวัน 31 บริษัท วันสามสิบเอ็ด เป็นตัวอย่างของศิษย์เก่าสาขาศิลปะการแสดง รุ่น 5 ที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพแวดวงสื่อธุรกิจโทรทัศน์ในฐานะของคนที่ทำงานเบื้องหลัง “ผมเลือกเรียนศิลปะการแสดงที่นี่เพราะผมชอบการแสดงละครเวที ประกอบกับบ้านผมก็อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย ได้รู้และเห็นความก้าวหน้าทันสมัยของมหาวิทยาลัยมาตลอด พอได้เรียนในสาขาที่ใช่ วิชาที่ชอบเรียนแล้วสนุก ได้เรียนได้ทำกิจกรรมเข้มข้นมาก ที่ประทับใจมากคือตอนที่ผมเพิ่งเข้าปี 1 แต่ก็มีโอกาสประสานงานหลายอย่าง ต้องดีลงานเองทุกอย่างตั้งแต่เป็นนักแสดงเอง เล่นเอง กำกับเอง วางบิลเอง ทำให้ผมเรียนรู้ทุกกระบวนการผลิตละครเวทีไปจนถึงเรื่องของการทำธุรกิจได้ด้วย พอได้ทำงานที่ช่องวัน 31 ผมก็มีโอกาสได้ทำจริงตามที่เรียนมาจริงๆ ทุกอย่าง ผลงานที่ผมมีส่วนร่วมเป็นคนทำงานเบื้องหลังที่ภูมิใจมากคือการประกวด The Star ค้นคว้าฟ้าดาว 2022 อยากบอกว่าไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำงานเบื้องหน้าอย่างเป็นนักแสดงหรือเป็นตัวศิลปินเอง ทุกคนทุกงานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน แม้แต่คนที่ทำงานด้าน Production อยู่เบื้องหลังอย่างผม ก็เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้งานนั้นๆ สำเร็จได้ด้วยดี ใช่ว่าคนอยู่เบื้องหลังจะไม่สำคัญ”
โลกการแสดงมิได้มีเพียงแต่ฉากการแสดงละครและตัวละครบนเวที หากยังมีความสุขและความสำเร็จในเส้นทางอาชีพการแสดงรออยู่เบื้องหน้า หากเลือกเรียนในสิ่งที่ใช่ วิชาที่ชอบ เพื่อทำความฝันนั้นให้เป็นจริง Follow Your Dream ในความเป็น “เด็กมนุษย์หอการค้า เอกการแสดง” ที่มีมากกว่าการเรียนในตำรานั่นเอง.