อุตสาหกรรมสุขภาพไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ผู้บริโภคต้องการการดูแลสุขภาพแบบลึกขึ้นและเฉพาะบุคคลมากกว่าเดิม เทรนด์ Personalized Wellness ในปี 2568 ไม่ได้หมายถึงการรักษาเมื่อเจ็บป่วยเท่านั้น แต่คือการออกแบบแนวทางป้องกันรายบุคคลบนฐานข้อมูลจริง ตั้งแต่พันธุกรรม ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงพฤติกรรมสุขภาพ โดยเฉพาะตลาดรักษาปัญหากระดูกสันหลังที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากออฟฟิศซินโดรมและ Text Neck Syndrome ในคนวัยทำงาน ส่งผลให้การรักษาที่แม่นยำและฟื้นตัวเร็วเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ในฐานะโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อแห่งแรกของไทย เดินหน้าเชิงกลยุทธ์สู่การเป็น Specialty Hospital แบบครบวงจร พร้อมปักหมุดวิสัยทัศน์ปี 2568 ด้วยแผนลงทุนครั้งใหญ่ทั้งด้านเทคโนโลยี การรักษา และบุคลากร เพื่อยกระดับคุณภาพบริการสู่มาตรฐานระดับภูมิภาคอย่างเต็มรูปแบบ
หนึ่งในก้าวสำคัญ คือการลงทุนในเทคโนโลยีวินิจฉัยระดับประเทศ ได้แก่ Standing MRI เครื่องแรกและเครื่องเดียวในไทย ช่วยเพิ่มศักยภาพการตรวจหาความผิดปกติที่ไม่สามารถมองเห็นได้ขณะนอน รวมถึงเทคโนโลยี AI-assisted MRI ที่ช่วยลดความคลาดเคลื่อนและเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบ X-ray ความละเอียดสูงที่สนับสนุนการออกแบบแผนการรักษาเฉพาะราย ทำให้แพทย์สามารถตัดสินใจได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ด้านการรักษา โรงพยาบาลยังพัฒนาการผ่าตัดแบบแผลเล็กหรือ Minimally Invasive ด้วยการผ่าตัดผ่านกล้อง Endoscope ขนาดแผลเพียง 0.5 มิลลิเมตร ช่วยลดการพักฟื้นและเพิ่มการหมุนเวียนเตียงอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้เครื่องสแกนกล้ามเนื้อเฉพาะมัดเพื่อยกระดับผลลัพธ์การกายภาพบำบัดและลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ ซึ่งตอบโจทย์ผู้ป่วยทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม Medical Tourism ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากเทคโนโลยีแล้ว เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในบุคลากรเฉพาะทางอย่างจริงจัง ผ่านโปรแกรมอบรมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ ครอบคลุมแพทย์ พยาบาล ห้องผ่าตัด และนักกายภาพ พร้อมใช้ฐานข้อมูลผู้ป่วยกว่า 100,000 ราย ในการวางระบบการรักษาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งช่วยสร้างข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันและเป็นกำแพงกั้นคู่แข่งรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน โรงพยาบาลอยู่ในกระบวนการขอรับรองมาตรฐาน AACI ซึ่งเป็นระบบคุณภาพระดับสากลสำหรับสถานพยาบาล การได้รับการรับรองนี้จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนและผู้บริโภคต่างชาติ พร้อมทั้งสนับสนุนบทบาทของประเทศไทยในฐานะ Medical Hub ของเอเชีย โดยเฉพาะด้านบริการเฉพาะทางอย่างกระดูกสันหลังที่มีความต้องการสูงในตลาดนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์
ด้วยยุทธศาสตร์การลงทุนรอบด้านทั้งเทคโนโลยี คุณภาพการรักษา และบุคลากรระดับมืออาชีพ เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ตั้งเป้าขยายบทบาทจากโรงพยาบาลเฉพาะทางในประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลังระดับภูมิภาค รองรับผู้ป่วยต่างชาติและเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอุตสาหกรรมสุขภาพที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อ
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-034-0808
