กรุงเทพฯ – รายงานล่าสุดจากแคสเปอร์สกี้ เผยให้เห็นว่าธุรกิจไทยตกเป็นเป้าหมายการโจมตีด้วยสปายแวร์มากถึง 21,014 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 นับเป็นสัญญาณเตือนให้บริษัทต่างๆ ตื่นตัวและเพิ่มมาตรการป้องกันภัยไซเบอร์
ข้อมูลจากแคสเปอร์สกี้ระบุว่า ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การโจมตีด้วยสปายแวร์ต่อองค์กรธุรกิจรวมทั้งหมดสูงถึง 427,265 ครั้ง เพิ่มขึ้นถึง 70.73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเวียดนามมีจำนวนมากที่สุด 191,976 ครั้ง ตามด้วยมาเลเซีย 96,539 ครั้ง อินโดนีเซีย 85,560 ครั้ง และสิงคโปร์ 20,157 ครั้ง ไทยอยู่ในอันดับ 4 ของภูมิภาค
สปายแวร์เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานอย่างลับๆ เพื่อติดตามและรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ เช่น ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ รหัส PIN บัญชี หมายเลขบัตรเครดิต การกดแป้นพิมพ์ และพฤติกรรมการท่องเว็บ ข้อมูลเหล่านี้สามารถส่งต่อให้ผู้โจมตีเพื่อนำไปใช้หรือขายต่อได้
ไซมอน เติ้ง ผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคอาเซียนและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ของเอเชีย แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “สปายแวร์ทำงานอย่างเงียบๆ ขโมยข้อมูลสำคัญที่สุด ตั้งแต่รหัสผ่าน ข้อมูลบัญชี จนถึงข้อมูลขององค์กร การโจมตีที่พุ่งเป้าไปที่ธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถือเป็นภาวะฉุกเฉินด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับภูมิภาค”
แคสเปอร์สกี้ยังเตือนว่า สปายแวร์เชิงพาณิชย์ เช่น Pegasus สามารถติดตั้งอุปกรณ์โดยไม่ต้องคลิกลิงก์ ทำให้ธุรกิจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีแม้ไม่ได้เกิดจากความประมาทของพนักงาน
เพื่อป้องกันการโจมตี แคสเปอร์สกี้แนะนำให้องค์กรอัปเดตซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ ใช้ VPN ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์หรือเข้าเว็บไซต์ที่น่าสงสัย รีบูตอุปกรณ์เป็นประจำ และติดตั้งโซลูชันความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ พร้อมศึกษาข้อมูล Threat Intelligence ล่าสุดเพื่อรับมือภัยคุกคามเชิงรุก
การโจมตีด้วยสปายแวร์ต่อธุรกิจไทยที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณเตือนสำคัญว่าองค์กรต้องปรับกลยุทธ์ด้านไซเบอร์ให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญและความมั่นคงขององค์กร
![]()















