ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายศักดาฯ กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม และร่วมกันฉ้อโกง”
สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถ ท่ารถตู้ต่างจังหวัดรังสิต ทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธิน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
สืบเนื่องจาก นางสาวสุภัควิณีฯ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายรัฐธรรมนูญฯ ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นตัวแทนขายประกันของบริษัท กรุงไทยแอกซ่า ประกันชีวิต ต่อมาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้ร่วมกันเสนอโครงการประกันออมทรัพย์พิเศษ โดยอ้างว่าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี และยังได้รับความคุ้มครองเมื่อเสียชีวิต 3 เท่าของเงินฝาก ซึ่งโครงการข้างต้นไม่มีอยู่จริง ด้วยผลตอบแทนและความคุ้มครองที่สูง ทำให้มีลูกค้าหลายรายหลงเชื่อ ซื้อประกันดังกล่าว ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสมุดรับฝากเงินที่ปรากฎตราสัญญาลักษณ์ และลายมือชื่อผู้บริหารบริษัท กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต ขึ้นมาทั้งฉบับ ส่งมอบให้กับลูกค้า ซึ่งมีลูกค้าหลายรายได้ชำระทุนประกันออมทรัพย์พิเศษข้างต้นนั้น ด้วยเช็คสั่งจ่าย ซึ่งยอดเงินเหล่านั้น ไม่ได้ถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทฯ แต่อย่างใด
ต่อมานายศักดาฯ ผู้ต้องหาที่ 3(ผู้ต้องหาคดีนี้) ได้ยื่นใบคำขอเอาประกัน โดยหลอกลวงนำเช็คชำระเงินดังกล่าวที่ผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 หลอกลวงให้บริษัท กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต เคยสั่งจ่ายให้กับลูกค้าข้างต้น นำมาชำระค่าเบี้ยประกัน ต่อมานายศักดาฯ ได้ขอยกเลิกการสัญญาประกัน โดยอ้างว่า จะต้องนำเงินประกันข้างต้นไปสร้างบ้าน และขอรับเงินค่าเบี้ยประกันที่ชำระไว้จำนวน 7,880,221 บาท เมื่อบริษัทพิจารณาอนุมัติแล้ว โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของ นายศักดาฯ ภายหลัง นายศักดาฯ ได้โอนเงินไปยังบัญชีของผู้ต้องหาที่ 1 จำนวน 7,880,406 บาท และมีการแบ่งผลประโยชน์กันระหว่างผู้ต้องหาที่ 1-3 เป็นเหตุให้บริษัท กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต ได้รับความเสียหาย เนื่องจากหลงเชื่อส่งมอบเงินให้กับนายศักดาฯ ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ จึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษมอบคดีต่อพนักงานสอบสวน
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้เดินทางหลบหนีไปประเทศเกาหลีใต้ อยู่ระหว่างประสานงานตำรวจสากล ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 ทราบว่า หลบหนีมาประกอบอาชีพรับจ้างขับรถส่งผู้โดยสารจากกรุงเทพฯ – บางแสน จ.ชลบุรี จึงได้ติดตามสะกดรอย จนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหามาทำบันทึกการจับกุม ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผลปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. และ พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน สว.กก.1 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน