Thursday, November 7, 2024
ads-AIA
M06_BDC_bizmatchingnewscom1100x300
Tip
Viriyah
Krungthai
MeaungThai
KBank
PRU
SUPALAI
BKKIN
previous arrow
next arrow
HomeFINANCIAL การเงินOKJ” ปิดการขายหุ้น IPO หลังยอดจองซื้อล้นหลาม สถาบันจองซื้อล้น 11 เท่า

OKJ” ปิดการขายหุ้น IPO หลังยอดจองซื้อล้นหลาม สถาบันจองซื้อล้น 11 เท่า

“OKJ” ปิดการขายหุ้น IPO หลังยอดจองซื้อล้นหลาม สถาบันจองซื้อล้น 11 เท่า สะท้อนนักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจดีเดย์เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรก 4 ต.ค.นี้ เร่งเดินเครื่องต่อยอดแบรนด์ใหม่ Oh! Juice และ Ohkajhu Wrap & Roll

“บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่” ผู้นำธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ภายใต้คอนเซ็ปต์

“Be Organic from Farm to Table” เน้นวิถีเกษตรอินทรีย์ (Organic) พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก ในวันที่ 4 ตุลาคม 67 ปลื้มกระแสตอบรับนักลงทุนล้นหลาม สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจฟาร์มเกษตรอินทรีย์และร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ‘โอ้กะจู๋’ เร่งเดินเครื่องต่อยอดแบรนด์ใหม่ Oh! Juice และ Ohkajhu Wrap & Roll เดินหน้าสร้างการเติบโต ในฐานะ “King of Organic Salad” ในไทย

นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “OKJ”) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ โดยใช้ชื่อย่อ ‘OKJ’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ภายหลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 159 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขาย 6.70 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัทฯ (P/E) ที่ประมาณ 24.13 เท่า ซึ่งภายหลังจากเปิดจองซื้อหุ้น ระหว่างวันที่ 23 – 25 กันยายน 2567

ที่ผ่านมา โดยหุ้น OKJ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก สะท้อนพื้นฐานธุรกิจในการเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Be Organic from Farm to Table” เน้นวิถีเกษตรอินทรีย์ (Organic) ภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” “Oh! Juice” และ “Ohkajhu Wrap & Roll” และศักยภาพในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีการเติบโตสูง ยิ่งจะช่วยสนับสนุนให้ OKJ เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนภายหลังจากเข้าเทรดอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ภายหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ ได้วางแผนขยายการลงทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในปี 2567-2571

ซึ่งจะใช้เงิน IPO ในการขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋ Oh! Juice และ Ohkajhu Wrap & Roll รวมถึงการขยายธุรกิจหรือแบรนด์ใหม่ ๆ การก่อสร้างครัวกลางแห่งใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและประสิทธิภาพในการผลิต พัฒนา อุปกรณ์ และระบบสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูก และอาจนำเงินส่วนที่เหลือไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างยั่งยืน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OKJ กล่าวเพิ่มว่า แบรนด์โอ้กะจู๋ถือเป็นแบรนด์ชั้นนำและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในฐานะผู้นำธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัทฯ จึงได้เดินหน้าต่อยอดข้อได้เปรียบดังกล่าว ผ่านการพัฒนาเมนูและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จำหน่ายในร้านอาหารปัจจุบัน รวมถึงใช้จุดแข็งในการทำเกษตรอินทรีย์ มาพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่ ๆ ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สำหรับขายในร้าน Café Amazon เบเกอรี่เพื่อสุขภาพ และสินค้าสำหรับซื้อกลับบ้าน (Take away) รวมถึงในปีนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มธุรกิจใหม่ภายใต้แบรนด์ “Ohkajhu Wrap & Roll” และ “Oh! Juice” ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จภายหลังเปิดตัวไป โดยมีแผนจะขยายสาขาร้านใหม่ทั้ง 2 แบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ๆ โดยตั้งเป้าหมายการขยายสาขาร้าน Ohkajhu Wrap & Roll ให้ครบจำนวนประมาณ 20 สาขา และขยายสาขาร้าน

Oh! Juice ให้ครบจำนวนประมาณ 70 สาขา ภายในปี 2571 รวมถึงมีแผนพัฒนาแบรนด์อื่น ๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนในการเพิ่มบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอื่น ๆ เพื่อตอบโจทย์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลง และความนิยมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญการดูแลสุขภาพมากขึ้น

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า หลังจาก บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ หรือ OKJ ได้เปิดขายหุ้น IPO จำนวน 159 ล้านหุ้น มีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market cap) ณ ราคา IPO เท่ากับ 4,080.30 ล้านบาท ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก โดยมียอดจองซื้อจากนักลงทุนสถาบันกว่า 11 เท่า สะท้อนความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีศักยภาพการเติบโตสูง ประกอบกับธุรกิจของบริษัทฯ ยังเป็นอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ (Megatrends) ที่เกิดจากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของประชากรทั่วไป หันมาสนใจและให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับสัดส่วนประชากรในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเข้าสู่สังคมสูงอายุ (Aging society) มากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเชื่อว่า OKJ มีความพร้อมในด้านผลิตภัณฑ์ ความเชี่ยวชาญ บุคลากร และอยู่ในสถานะที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากการเติบโตดังกล่าวได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง ด้วยความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในฐานะ “King of Organic Salad” ในประเทศไทย เป็นสิ่งช่วยผลักดันที่ทำให้กระแสความสนใจหุ้นของ OKJ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ด้วยความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของ OKJ ทำให้บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด (Modulus) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ตกลงจะซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ก่อตั้ง 3 ท่านบนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) จำนวน 31.8 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 5.22 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลัง IPO ในวันแรกที่หุ้น OKJ เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้กลุ่ม OR รักษาสัดส่วนการถือหุ้นที่ร้อยละ 20 ภายหลังการ IPO

 

 

 

 

 

 

 

Loading

RELATED ARTICLES
www.bangkokinsurance.com
https://bit.ly/3TuonYG
https://bit.ly/3TuonYG
MRDIY ADS
2023_BKI-UpCountry_Size-1076x1521px
ThaiIns
BAAC
previous arrow
next arrow

Most Popular