SCGD หรือ SCG Decor กำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านวัสดุปิดผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกที่มุ่งเน้นการเติบโตแบบยั่งยืน โดยบริษัทได้วางรากฐานการดำเนินงานใน 6 ด้านสำคัญ พร้อมข้อมูลเชิงลึกที่แสดงถึงความแข็งแกร่งและทิศทางในอนาคต
1. ควบคุมต้นทุนและใช้พลังงานหมุนเวียน
SCGD ลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น ชีวมวลที่มีสัดส่วนการใช้อยู่ที่ 19% และโซลาร์เซลล์อีก 10% ของพลังงานทั้งหมดในปัจจุบัน โดยบริษัทตั้งเป้าขยายสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มเป็น 46% สำหรับชีวมวล และ 15% สำหรับโซลาร์เซลล์ ภายในปี 2030 เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
2. ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมมูลค่าเพิ่มสูง
SCGD เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน เช่น
กระเบื้องเกรซพอร์ซเลน X-Strong รองรับน้ำหนักได้มากกว่า 1 ตัน
สุขภัณฑ์อัตโนมัติ (Smart Toilet) พร้อมระบบเซ็นเซอร์ล้ำสมัย
วัสดุตกแต่ง Paws & Play ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายสำหรับสัตว์เลี้ยง
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยเพิ่มยอดขายในกลุ่มพรีเมียมได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน
3. การเติบโตในตลาดสุขภัณฑ์อาเซียน
การขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนถือเป็นกุญแจสำคัญ SCGD ได้เพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่ายจาก 120 รายในปี 2022 เป็น 170 รายในปี 2024 ทำให้ยอดขายในภูมิภาคเติบโตกว่า 500 ล้านบาท และตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี
4. การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย
บริษัทได้เปิดร้านค้าชั้นนำ เช่น COTTO LiFE ดอนเมือง รวมถึงโชว์รูมในฟิลิปปินส์ เวียดนาม และกัมพูชา การขยายช่องทางจำหน่ายนี้ช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายใหม่ และคาดว่าจะผลักดันยอดขายในปี 2025 ให้เติบโตอีก 15%
5. การสร้างแบรนด์ครองใจผู้บริโภค
SCGD คว้ารางวัล “Thailand’s Most Admired Brand” ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 และ “Asia’s Top Influential Brands Awards” ในปี 2024 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ พร้อมอัตราการเพิ่มขึ้นของฐานลูกค้ากว่า 20% ในปีที่ผ่านมา
6. การเป็นหุ้นยั่งยืนใน SET ESG Ratings
SCGD ได้รับการคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืนระดับ A ในกลุ่ม Propcon จาก SET ESG Ratings ด้วยคะแนนด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมที่โดดเด่น บริษัทตั้งเป้าสานต่อมาตรฐานนี้และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีก 50% ภายในปี 2030
เป้าหมายการเติบโตสองเท่าในปี 2030
ด้วยการดำเนินงานที่ครอบคลุมทุกมิติ SCGD ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นจาก 15,000 ล้านบาทในปี 2024 เป็น 30,000 ล้านบาทในปี 2030 ผ่านการขยายตลาด การพัฒนานวัตกรรม และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน การเดินหน้าครั้งนี้ไม่เพียงสร้างผลกำไร แต่ยังช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างในอาเซียน.
