การพัฒนาอาชีพในชุมชน: โอกาสใหม่ในการเสริมทักษะและยกระดับคุณภาพชีวิต
ในปัจจุบัน การพัฒนาทักษะและอาชีพถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในชุมชนที่มักจะประสบปัญหาด้านการขาดแคลนโอกาสในการฝึกฝนทักษะและการหางานที่มั่นคง สำหรับโครงการที่เกิดจากการร่วมมือของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมการจัดหางาน นั้น ถือเป็นความพยายามอย่างยิ่งในการผลักดันและพัฒนาอาชีพให้กับชุมชนของการเคหะแห่งชาติกว่า 800 ชุมชนทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายหลักคือการยกระดับอาชีพและเพิ่มทักษะใหม่ ๆ ผ่านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างครบวงจร
จำนวนชุมชนและคนในโครงการ: การเข้าถึงทุกภาคส่วน
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการพัฒนาทักษะและอาชีพนี้เริ่มต้นด้วยการคัดเลือกชุมชนกว่า 800 แห่งจากทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวนประชากรรวมประมาณ 700,000 คน โดยจะมุ่งเน้นที่ชุมชนที่มีความพร้อมในการพัฒนาอาชีพ และมีความต้องการที่จะยกระดับศักยภาพทางด้านการทำงานและการสร้างรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่ขาดแคลนทักษะในการทำงานหรือกลุ่มที่ต้องการพัฒนาฝีมือให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของตลาด
การคัดเลือกชุมชนจะพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ความพร้อมของชุมชนในการเข้าร่วมโครงการ การมีความต้องการพัฒนาทักษะและอาชีพในระยะยาว รวมถึงศักยภาพของแต่ละชุมชนในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างอาชีพที่มั่นคงและมีคุณภาพ
โครงการในแต่ละเฟส: การพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน
โครงการนี้จะดำเนินการในหลายเฟส โดยเริ่มจากการพัฒนาในระดับเล็ก ไปจนถึงการขยายผลในระดับใหญ่ เพื่อให้การพัฒนามีความยั่งยืนและตรงตามความต้องการของชุมชนมากที่สุดงาน และเป็นการพัฒนาศักยภาพด้านอาชีพของผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติให้มีความรู้ ความสามารถ ทั้งในด้าน Reskill และ Upskill ให้สูงขึ้นและได้มาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และส่งเสริมให้มีงานทำหรือสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพอิสระ โดยผู้ผ่านการฝึกอบรมหรือผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด พร้อมกันนี้ยังจะได้รับวุฒิบัตรรับรองอีกด้วย
เฟสที่ 1: การคัดเลือกและพัฒนา 7 ชุมชน
ในระยะเริ่มต้นนี้ โครงการจะเริ่มต้นที่การคัดเลือก 7 ชุมชนของการเคหะแห่งชาติจากทั่วประเทศ เพื่อทำการพัฒนาในรูปแบบนำร่อง (Pilot) โดยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะที่มีความต้องการสูงในแต่ละชุมชน เช่น การทำอาหารและขนม การฝึกฝนช่างอุตสาหกรรม หรือการพัฒนาเกษตรกรรมในบางพื้นที่ ทั้งนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือนในการดำเนินการในเฟสแรก
ในระยะ 3 เดือนนี้ ทางโครงการจะเน้นการอบรมและฝึกทักษะใหม่ ๆ ให้กับชุมชน รวมถึงการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์ โดยจะมีการให้คำแนะนำและการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับความรู้และทักษะที่สามารถนำไปใช้ในอาชีพได้ทันที
เฟสที่ 2: การขยายผลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
หลังจากที่โครงการในเฟสแรกเสร็จสมบูรณ์และประสบความสำเร็จในการพัฒนาทักษะในชุมชน 7 แห่งแล้ว โครงการจะขยายไปยังชุมชนอื่น ๆ ที่ได้รับการคัดเลือกเพิ่มเติม โดยการขยายผลนี้จะมุ่งเน้นที่การสร้างต้นแบบของชุมชนการเคหะแห่งชาติที่มีการพัฒนาอาชีพที่มีคุณภาพ ซึ่งจะสามารถส่งต่อความรู้และทักษะไปยังชุมชนการเคหะแห่งชาติอื่น ๆ ได้
ในระยะนี้จะมีการใช้เวลาประมาณ 6 เดือน โดยจะมีการเพิ่มจำนวนชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายระหว่างชุมชนที่มีการพัฒนาอย่างดีแล้วให้สามารถแชร์ความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดย 7 ชุมชนนำร่องนี้ จะยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับชุมชนอื่นๆ เพื่อให้การพัฒนาทักษะและอาชีพเป็นไปในทิศทางเดียวกันและสามารถขยายผลได้อย่างต่อเนื่อง
การใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาอาชีพ
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของโครงการนี้คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาทักษะและอาชีพ โดยเฉพาะการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการเชื่อมโยงผู้ผลิตสินค้าจากชุมชนกับตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ตลาดออนไลน์ (E-commerce) และโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการจากชุมชนสู่ผู้บริโภคในวงกว้าง
นอกจากนี้ เทคโนโลยียังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น เช่น การพัฒนาแพ็กเกจจิ้งที่น่าสนใจและการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและของที่ระลึกที่ผลิตจากชุมชน การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการเหล่านี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพที่ตอบสนองความต้องการของตลาดและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
เป้าหมายในอนาคต: การสร้างชุมชนที่ยั่งยืน
โครงการนี้มุ่งหวังที่จะพัฒนาอาชีพให้แก่ชุมชนในระยะยาว ไม่ใช่แค่การฝึกทักษะเฉพาะในบางอาชีพเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างอาชีพที่มั่นคงและสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนในระยะยาว ด้วยการพัฒนาให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการเชื่อมโยงระหว่างความรู้, ทักษะ, และการใช้เทคโนโลยี
ในอนาคต โครงการนี้จะขยายไปยังชุมชนของการเคหะแห่งชาติอื่น ๆ ทั่วประเทศ เพิ่มจำนวนคนในชุมชนที่ได้รับการพัฒนาอาชีพให้มากขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคประชาสังคมในการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งและพัฒนาไปอย่างยั่งยืน