สำนักงาน คปภ. ได้เปิดตัวโครงการ Open Insurance อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 โดยมีนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานในพิธีเปิด ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว งานนี้ได้รับความสนใจจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย ผู้บริหารบริษัทประกันภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 200 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของระบบนี้ต่ออนาคตของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย
Open Insurance: ปลดล็อกอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานใหม่
ระบบ Open Insurance ได้รับการพัฒนาเพื่อเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในอุตสาหกรรมประกันภัยอย่างมีมาตรฐาน โปร่งใส และปลอดภัย นวัตกรรมนี้จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันการฉ้อฉลในธุรกิจประกันภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน
การใช้ข้อมูลแบบเปิดในอุตสาหกรรมประกันภัยจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้มากขึ้น ลดระยะเวลาในการพิจารณารับประกัน และช่วยให้ผู้บริโภคได้รับบริการที่รวดเร็วและตรงจุดยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังช่วยส่งเสริมการแข่งขันในอุตสาหกรรมโดยการเปิดโอกาสให้บริษัทประกันภัยขนาดเล็กสามารถเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานเดียวกันกับบริษัทใหญ่ได้
ขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือและเทคโนโลยี
เลขาธิการ คปภ. เน้นย้ำว่าการดำเนินงานโครงการ Open Insurance จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานกำกับดูแล บริษัทประกันภัย และผู้ให้บริการเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดระบบนิเวศข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสามารถนำไปใช้กำกับดูแลเชิงป้องกัน (Preventive Supervision) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรม
ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ Open Insurance จะช่วยให้บริษัทประกันภัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างลึกซึ้งขึ้น นำไปสู่การพัฒนากลยุทธ์ที่แม่นยำขึ้น รวมถึงการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ตลาดได้ดียิ่งขึ้น ด้วยระบบที่ปลอดภัยและโปร่งใส ผู้บริโภคเองก็จะได้รับความมั่นใจมากขึ้นในการใช้บริการของบริษัทประกันภัย
อนาคตของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย
การประชุม Kick-off โครงการ Open Insurance ถือเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย ระบบนี้จะช่วยเสริมสร้างความโปร่งใส ยกระดับการแข่งขันในระดับสากล และเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล
หากโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมประกันภัยไทยจะสามารถปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคง สร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลก นอกจากนี้ ระบบ Open Insurance ยังสามารถต่อยอดไปสู่การเชื่อมโยงข้อมูลกับภาคธุรกิจอื่น ๆ เช่น ธนาคารและภาคการแพทย์ เพื่อสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่สมบูรณ์มากขึ้น การพัฒนาในทิศทางนี้จะไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจประกันภัยเติบโต แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย
