บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2568 ด้วยยอดขายรวม 29,789 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปรับปรุง (ไม่รวมค่าใช้จ่ายทรานฟอร์เมชั่น) ขยายตัวถึง 8.9% อยู่ที่ 1,317 ล้านบาท และทำสถิติอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง 18.8% ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของไตรมาสแรก
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะเผชิญความท้าทาย ไทยยูเนี่ยนยังคงดำเนินกลยุทธ์มุ่งสู่ปี 2573 หรือ Strategy 2030 อย่างมั่นคง พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวทางธุรกิจ โดยกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ (รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ) อยู่ที่ 1,019 ล้านบาท อัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับ 1.0 เท่า ถือว่ามีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมรองรับโอกาสการลงทุนใหม่
ในด้านผลประกอบการรายกลุ่มธุรกิจ:
กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง มียอดขาย 4,174 ล้านบาท โต 5.5% จากปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24.5%
กลุ่มอาหารทะเลแปรรูป แม้ยอดขายลดลง 14% เหลือ 14,762 ล้านบาท แต่ยังทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีที่ 19.4%
กลุ่มอาหารทะเลแช่แข็ง ยอดขายอยู่ที่ 8,441 ล้านบาท ลดลง 12.2% จากราคากุ้งสูงขึ้นในสหรัฐฯ แต่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเป็น 12.4%
กลุ่มสินค้าเพิ่มมูลค่าและอื่นๆ มียอดขาย 2,412 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 3.1%
บริษัทฯ ยังได้วางแผนรองรับผลกระทบจากความผันผวนของภาษีในสหรัฐอเมริกา ด้วยการสำรองสินค้าไว้เพียงพอขายได้ 4–6 เดือน และใช้ประโยชน์จากฐานการผลิตกระจายอยู่ใน 13 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม กานา และโปแลนด์
ในไตรมาสนี้ ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคงอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวในระดับ A จาก Japan Credit Rating Agency (JCR) โดยอยู่ในระดับเดียวกับเครดิตของประเทศไทย สะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงินและศักยภาพการดำเนินธุรกิจระดับโลก
นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังได้รับวงเงินกู้ “Blue Loan” เพื่อความยั่งยืนทางทะเลจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) วงเงิน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,000 ล้านบาท นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทอาหารทะเลในไทยได้รับสินเชื่อประเภทนี้ ซึ่งจะนำไปใช้สนับสนุนการจัดซื้อกุ้งที่เพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืนในประเทศ โดยสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน “SeaChange® 2030” ของบริษัท
การเติบโตที่แข็งแรงในไตรมาสแรกสะท้อนความสามารถของไทยยูเนี่ยนในการสร้างสมดุลระหว่างผลประกอบการและความยั่งยืน พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการจากท้องทะเล
