“ฝนหลวง” นวัตกรรมแห่งน้ำพระทัย ยืนหยัด 53 ปี สร้างกำไรเพื่อสังคมยั่งยืนเหนือเม็ดเงิน
ทิพยฯ นำคณะลงพื้นที่เขื่อนแก่งกระจาน–บ้านดิน เพชรบุรี เรียนรู้ศาสตร์พระราชา ผ่านโครงการ “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด”
เมื่อย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2510 ประเทศไทยเผชิญกับภัยแล้งครั้งใหญ่ จนเกษตรกรต้องฝากชีวิตไว้กับความไม่แน่นอนของธรรมชาติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเล็งเห็นปัญหาและไม่ทอดทิ้งประชาชน พระองค์จึงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ค้นคว้าและทดลองโครงการฝนหลวง จนกลายเป็นนวัตกรรมแห่งน้ำพระทัยที่ช่วยแก้ปัญหาทรัพยากรน้ำให้กับประชาชนอย่างยั่งยืนมากว่าครึ่งศตวรรษ
เนื่องในโอกาสครบรอบ 53 ปีแห่งความสำเร็จของโครงการฝนหลวง บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดโครงการ “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 53” ณ จังหวัดเพชรบุรี โดยนำคณะผู้เข้าร่วมลงพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ เขื่อนแก่งกระจาน – จุดที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทดลองฝนหลวงสูตรใหม่จนประสบผลสำเร็จครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2515 และศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านดิน เพื่อศึกษาแนวทางการนำศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย กล่าวว่า
> “หัวใจของโครงการนี้ คือการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้และซึมซับแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะโครงการฝนหลวง ที่ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีจัดการน้ำ แต่เป็น ‘นวัตกรรมแห่งน้ำพระทัย’ ที่สะท้อนพระวิสัยทัศน์ ความเสียสละ และความเมตตาอย่างลึกซึ้ง”
ภายในกิจกรรม นอกจากการเยี่ยมชมสถานที่จริง ยังจัดเวิร์กช็อปและสัมมนาวิชาการด้าน “ศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี, ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย และอาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม ร่วมถ่ายทอดความรู้ พร้อมแนะนำ Interactive Board Game นวัตกรรมสื่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชนศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี 2030
ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้ลงมือสร้างบ้านดินจริง ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านดิน – เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง ซึ่งเปิดดำเนินงานโดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ เมื่อปี 2550 เพื่อส่งเสริมการคืนคนดีสู่สังคม ด้วยแนวคิดที่ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นรากฐาน
อีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมที่สะท้อนการลงมือทำอย่างแท้จริง ได้แก่
การมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในพื้นที่
การส่งมอบหนังสือผ่านโครงการ “อมรินทร์อาสา อ่านพลิกชีวิต” เพื่อส่งเสริมการอ่าน
การปล่อยปลานิล 10,000 ตัว เป็นมหาทาน สร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศในท้องถิ่น
โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ ทิพยประกันภัย กับหน่วยงานพันธมิตร อาทิ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน), สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน), สมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย, มูลนิธิธรรมดี, คุรุสภา, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงวัฒนธรรม และได้รับการสนับสนุนหนังสือจากกลุ่มอมรินทร์
ตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษ “ฝนหลวง” ไม่ได้เป็นแค่เทคโนโลยีฝนเทียม แต่เป็น “กำไร” ทางสังคมที่ไม่สามารถวัดค่าได้ และยังคงสร้างความมั่นคงทางน้ำ ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ และความหวังให้กับเกษตรกรไทยจนถึงวันนี้
![]()















