กรุงเทพฯ – บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี หนึ่งในสถานที่จัดงานชั้นนำของเอเชีย ประกาศ วิสัยทัศน์องค์กรใหม่ เพื่อก้าวสู่การเป็น “จุดหมายปลายทางระดับโลกด้านธุรกิจ การประชุม และความบันเทิง” (Global Destination for Business, Meetings & Entertainment) พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ
นาย พอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า อิมแพ็คกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ไม่ใช่เพียง “สถานที่จัดงาน” แต่เป็น “ศูนย์กลางแห่งแรงบันดาลใจ ความคิด และการเชื่อมโยงผู้คน” ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่อุตสาหกรรม นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์มาบรรจบกัน ผ่านการจัดนิทรรศการ การประชุมนานาชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (MICE) และคอนเสิร์ตระดับโลก
> “บริษัทไม่ใช่เพียงสถานที่จัดงานเท่านั้น แต่คือพื้นที่ที่ผู้คนได้มาพบกัน อุตสาหกรรมได้เติบโต และแนวคิดใหม่ๆ ได้ถือกำเนิดขึ้น วิสัยทัศน์ใหม่นี้สะท้อนความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย และสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้เล่นระดับโลก” นายพอลล์กล่าว
วิสัยทัศน์ใหม่: ยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ไทยสู่เวทีโลก
ในโอกาสครบรอบ 27 ปี ของการดำเนินงาน อิมแพ็คได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่อย่างเป็นทางการ คือ
> “มุ่งสู่การเป็นจุดหมายปลายทางไมซ์ชั้นนำของเอเชีย และศูนย์กลางระดับโลกด้านธุรกิจ การประชุม และความบันเทิง เพื่อเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางไมซ์ของภูมิภาคอย่างแท้จริง”
สร้างคุณค่าจากภายใน ด้วย IMPACT Core Values
ภายใต้แนวทางใหม่ บริษัทได้กำหนดพันธกิจที่มุ่งเน้นความเป็นเลิศ โปร่งใส มืออาชีพ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนด้วยพลังของบุคลากรและชุมชน
ทั้งนี้ บริษัทได้ประกาศ IMPACT Core Values หรือค่านิยมหลักขององค์กร เพื่อเป็นแนวทางในการทำงาน ได้แก่
Innovative Mindset (นวัตกรรมคิดสร้างสรรค์) : กล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง สร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
Partnership for Success (การร่วมมือเพื่อความสำเร็จ) : ทำงานเป็นทีม สร้างความร่วมมือกับพันธมิตร ลูกค้า และพนักงาน เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
Customer Trust (ความไว้วางใจจากลูกค้า) : ให้ใจและเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวและความมั่นคงของธุรกิจ
> “เรามั่นใจว่า หากทุกคนคิดอย่างสร้างสรรค์ ทำงานร่วมกันด้วยความเข้าใจ และรับฟังเสียงของลูกค้าอย่างแท้จริง บริษัทจะสามารถก้าวไปสู่เป้าหมายอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายพอลล์กล่าวเสริม
แผนยุทธศาสตร์สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน อิมแพ็คมีรายได้หลักจาก 4 เสาหลักทางธุรกิจ ได้แก่
1. ธุรกิจบริการให้เช่าพื้นที่จัดงาน
2. ธุรกิจจัดการงานแสดงสินค้าและอีเวนต์มืออาชีพ
3. ธุรกิจโรงแรม
4. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
ภายใต้แผนกลยุทธ์ระยะยาว บริษัทเตรียมขยายการลงทุนเพื่อสร้างระบบนิเวศธุรกิจไมซ์อย่างครบวงจร อาทิ
ขยายธุรกิจโรงแรม : เตรียมเปิดโรงแรมใหม่ 2 แห่ง รวมกว่า 1,000 ห้องภายในปี 2571 และขยายต่อเนื่องสู่ 3,000–5,000 ห้อง เพื่อรองรับงานระดับนานาชาติในอนาคต
ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม : เดินหน้าขยายแบรนด์ The Coffee Academics Thailand ที่ KINGSQUARE Community Mall พร้อมเปิดตัวร้านอาหารจีนระดับพรีเมียม Xian Yuan ที่ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Dusit Central Park)
พัฒนาสถานที่จัดงานระดับโลก : ลงทุนยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และจับมือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เช่น Live Nation เพื่อผลักดันให้ อิมแพ็ค อารีน่า เป็นจุดหมายปลายทางของคอนเสิร์ตและความบันเทิงระดับโลก
นายพอลล์ กล่าวทิ้งท้ายว่า
> “ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ อิมแพ็คจะก้าวไปอีกขั้นในการสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงธุรกิจ ความคิดสร้างสรรค์ และชุมชน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์และศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตสู่ระดับโลก”