กรุงเทพฯ – 9 ต.ค. 2568 – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศเตรียมยกเครื่องกลไกการบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ พร้อมพิจารณาออกเทศบัญญัติจัดตั้งหน่วยงานและเจ้าหน้าที่เฉพาะด้าน เพื่อดูแลการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เสมือนตัวอย่างจากเมืองอิโลอิโล ประเทศฟิลิปปินส์
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ระบุว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้หารือร่วมกับ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ และนพ.ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อยกระดับการบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ทั้งนี้ กทม. มุ่งเน้นการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะและอาคารที่มีความเสี่ยงสูง
ศ.นพ. ประกิต วาทีสาธกกิจ กล่าวว่า ควันบุหรี่เป็นมลพิษอันตรายต่อสุขภาพ การห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเป็นแนวทางปกป้องสิทธิของผู้ไม่สูบบุหรี่ หลายเมืองทั่วโลก เช่น ฮ่องกง และเมืองดาเวา-อิโลอิโลในฟิลิปปินส์ ได้จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่
แม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะตั้งแต่ปี 2535 แต่การบังคับใช้อย่างเข้มงวดยังเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่มีประชากรจำนวนมากและนักท่องเที่ยวกว่า 32.4 ล้านคนในปี 2567 ซึ่งประมาณ 1 ใน 5 เป็นผู้สูบบุหรี่
ที่ประชุมมีมติให้เชิญทีมนายกเทศมนตรีและเจ้าหน้าที่จากเมืองอิโลอิโล ประเทศฟิลิปปินส์ มาแบ่งปันประสบการณ์การออกเทศบัญญัติและจัดตั้งหน่วยงาน พร้อมแนะนำการบริหารอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 20 คน เพื่อบังคับใช้กฎหมายควบคุมยาสูบในกรุงเทพฯ
ศ.นพ. ประกิต ยังย้ำถึงความสำคัญของอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก มาตรา 8 ที่ระบุว่า “ควันบุหรี่มือสองเป็นสารก่อมะเร็งและไม่มีระดับที่ปลอดภัย” การคุ้มครองสุขภาพจากควันบุหรี่มือสองจึงถือเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของประชาชน
“ขอบคุณผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่ให้ความสำคัญในการคุ้มครองสุขภาพของชาวกรุงเทพฯ หวังว่ากทม. จะเป็นตัวอย่างให้จังหวัดอื่นๆ นำไปปฏิบัติ เพื่อปกป้องผู้ไม่สูบบุหรี่จากอันตรายของควันบุหรี่และไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสองต่อไป” ศ.นพ. ประกิต กล่าว