หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เดินหน้าขับเคลื่อน “โครงการนวัตกรรมการพัฒนาและยกระดับมูลค่ากาแฟพืชเศรษฐกิจหลักของชุมชนเกษตรกรรมเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่–เชียงราย” ผ่านกระบวนการ Learning and Innovation Platform (LIP) จุดประกายแนวคิด “คุณค่าที่มากกว่าเมล็ดกาแฟ”
ด้วยการบูรณาการ “ภูมิปัญญาท้องถิ่น” กับ “วิทยาศาสตร์อย่างง่าย” พัฒนาเกษตรกรให้เข้าใจการจัดการดิน น้ำ และภูมิอากาศ ด้วยข้อมูลจริง (Data-Driven Learning) ลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพผลผลิต และอนุรักษ์ทรัพยากรป่าต้นน้ำอย่างยั่งยืน
หนึ่งในพื้นที่ต้นแบบคือ บ้านห้วยน้ำกืน ตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ซึ่งเคยประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำจากภาวะอากาศแปรปรวน แต่หลังจากได้รับองค์ความรู้และเทคโนโลยีจากคณะวิจัย เกษตรกรในพื้นที่ได้พัฒนาทักษะจนกลายเป็น “นวัตกรชุมชน” ที่สามารถ “รับ–ปรับ–ใช้–ขยายผล” ความรู้ด้วยตนเอง อาทิ นายภูเมธ ภูมิธันเมธ ผู้กลายเป็นต้นแบบในการถ่ายทอดองค์ความรู้และแปรรูปกาแฟคุณภาพระดับ Specialty Coffee สร้างรายได้สูงถึง 2,000 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมพัฒนาแบรนด์กาแฟท้องถิ่นที่เชื่อมโยงตลาดสหายกาแฟในเชียงใหม่ได้สำเร็จ
คณะวิจัยยังได้ติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ระบบตรวจวิเคราะห์ดินเฉพาะพื้นที่ เทียบสีความสุกของผลกาแฟ โรงตากอัจฉริยะที่วัดอุณหภูมิ-ความชื้นแบบเรียลไทม์ ไปจนถึงระบบบัญชีต้นทุนอย่างง่าย ทำให้เกษตรกรเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ทั้งคุณภาพและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกว่า 5–10 เท่า
นอกจากมิติทางเศรษฐกิจแล้ว ความสำเร็จของ “แม่กวงโมเดล” ยังอยู่ที่การอนุรักษ์ป่าต้นน้ำอย่างเป็นรูปธรรม เกิดแนวคิด “กาแฟรักษ์ป่า” ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกาแฟใต้ร่มไม้ใหญ่ รักษาความชุ่มชื้นของดิน ลดไฟป่า และฟื้นคืนระบบนิเวศธรรมชาติในพื้นที่ ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนายังได้บรรลุพันธกิจ “มหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน” โดยเปลี่ยนงานวิจัยให้เป็นของจริงที่ชุมชนใช้ได้จริง
“ความสำเร็จของโครงการนี้ ไม่ได้หยุดอยู่ที่กาแฟคุณภาพ แต่คือการยกระดับคุณค่าคน พื้นที่ และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน”
— นายสุริยนต์ สูงคำ หัวหน้าโครงการฯ กล่าวทิ้งท้าย