ธนาคารกสิกรไทยประกาศบทบาทผู้นำด้านการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อมในระดับภูมิภาค เดินหน้าโชว์วิสัยทัศน์และนวัตกรรมด้าน Climate Finance บนเวทีการประชุมสมัชชาภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 30 (COP30) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10–21 พฤศจิกายน 2568 ที่เมืองเบเลง ประเทศบราซิล โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ธนาคารเข้าร่วมในฐานะตัวแทนภาคเอกชนไทย
ในเวที Thai Pavilion กสิกรไทยนำเสนอ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
1. การใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการออกคาร์บอนเครดิตโทเคน เพื่อพัฒนาตลาดคาร์บอนยุคใหม่
2. ความร่วมมือภาครัฐ–เอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว
3. การพัฒนาระบบบัญชีคาร์บอน 2.0 เพื่อยกระดับความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในเป้าหมาย Net Zero
ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ ชู Tokenization ยกระดับตลาดคาร์บอน
ดร.กรินทร์ ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Tokenization: Decentralizing Carbon Markets” นำเสนอความสำเร็จของโครงการนำร่องแปลงคาร์บอนเครดิตเป็นโทเคนดิจิทัล เพื่อเสริมประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และลดต้นทุนในการซื้อขายคาร์บอนเครดิต พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญรองรับตลาดคาร์บอนเครดิตภาคบังคับในอนาคต และช่วยผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขายคาร์บอนระดับภูมิภาค
พร้อมกันนี้ ดร.กรินทร์ยังได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Driving Systems Change through Climate Public-Private Partnerships (PPP)” เน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือเชิงระบบระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อน Climate Action โดยยกตัวอย่างโครงการเด่น เช่น
Thailand Climate Business Network (Thai CBN) ที่มีสมาชิกกว่า 34 องค์กร
โครงการ Net Zero CEO หลักสูตรพัฒนาผู้นำด้านความยั่งยืนที่กสิกรไทยร่วมกับสถาบัน CBiS
ดร.วิชัย ณรงค์วณิชย์ เปิดแนวคิด Carbon Accounting 2.0 หนุนเป้าหมาย Net Zero 2050
ด้าน ดร.วิชัย ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Carbon Accounting 2.0: Accelerating Transparency and Trust on the Road to Net Zero 2050” นำเสนอโมเดลระบบบัญชีคาร์บอนรุ่นใหม่ที่บูรณาการทั้งนโยบาย ข้อมูล โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ความยั่งยืนของกสิกรไทยปี 2568 ที่มุ่งพัฒนาระบบสินเชื่อแบบรับผิดชอบ และดันสินเชื่อ–เงินลงทุนด้านความยั่งยืนแตะ 4–5 แสนล้านบาทภายในปี 2573
ดร.วิชัยย้ำว่า การพัฒนาข้อมูลคาร์บอนที่โปร่งใส จะช่วยให้ธนาคารสามารถประเมินความเสี่ยงและเลือกปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ พร้อมสนับสนุนทุกภาคธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลาง Climate Solution ของภูมิภาค
ดร.กรินทร์กล่าวทิ้งท้ายว่า การเข้าร่วม COP30 สะท้อนความตั้งใจของกสิกรไทยที่จะเป็น “The Most Comprehensive Climate Solution Provider” พร้อมผลักดันระบบการเงินไทยให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมด้านสภาพภูมิอากาศและความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการแข่งขันของภาคธุรกิจไทยและเป้าหมาย Net Zero อย่างมั่นคงและเป็นรูปธรรม
![]()















