การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในกลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งภูมิภาคนี้กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้น บริษัทวีโร่ (Vero) ที่ปรึกษาชั้นนำด้านการสื่อสารและการตลาดดิจิทัลในภูมิภาค ได้เผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์ฉบับใหม่ที่นำเสนอผลสำรวจจากอินฟลูเอนเซอร์ในอินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เพื่อศึกษาความต้องการและแนวโน้มสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ในปี 2568
เอกสารดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า “ผลกระทบ การมีส่วนร่วม และอนาคตของการตลาดอินฟลูเอนเซอร์: มุมมองจากอินฟลูเอนเซอร์” (Impact, Engagement, and the Future of Influencer Marketing: Insights from Influencers) ได้สำรวจความคิดเห็นของอินฟลูเอนเซอร์เกือบ 150 คน ครอบคลุมหลากหลายช่วงอายุ ประสบการณ์ และกลุ่มเนื้อหา ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ความสำเร็จของการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการเล่าเรื่องที่สามารถเชื่อมโยงผู้ชม ความเป็นตัวของตัวเองของอินฟลูเอนเซอร์ และความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์
คุณอุมาพร วิทเทเกอร์-ทอมป์สัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้า และหัวหน้าแผนก Influence ของวีโร่ กล่าวว่า “การวิจัยอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวต่อแนวโน้มใหม่ๆ และการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์”
การเล่าเรื่องที่น่าสนใจถือเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้อินฟลูเอนเซอร์สามารถโดดเด่นในโลกออนไลน์ โดยแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในภูมิภาคคือ Instagram และ TikTok ซึ่งใช้เป็นช่องทางหลักหรือรองในการนำเสนอเนื้อหา นอกจากนี้ การรักษาความเป็นตัวของตัวเองยังเป็นปัจจัยสำคัญ โดย 58% ของอินฟลูเอนเซอร์ที่สำรวจระบุว่า พวกเขาให้ความสำคัญกับการคงไว้ซึ่งสไตล์และค่านิยมส่วนตัวขณะร่วมงานกับแบรนด์
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงมีอยู่ โดยอินฟลูเอนเซอร์กว่า 29% ระบุว่าการขาดอิสรภาพทางความคิดเป็นอุปสรรคสำคัญ นอกจากนี้ ปัญหาความล่าช้าในการชำระเงินและการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนก็เป็นข้อกังวลที่แบรนด์ควรแก้ไขเพื่อสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ในแง่ของความสัมพันธ์กับแบรนด์ อินฟลูเอนเซอร์ในหลายประเทศ เช่น ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ให้ความสำคัญกับโอกาสในการร่วมงานระยะยาวมากกว่าค่าตอบแทนสูงเพียงอย่างเดียว ซึ่งแสดงถึงความปรารถนาที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและเกิดผลดีทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ อินฟลูเอนเซอร์ยังจับตามองแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการขายของผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งคาดว่าจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมในอนาคต โดย 36% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า AI จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในปีต่อๆ ไป
เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มเหล่านี้ วีโร่ได้พัฒนาเครื่องมือ TrueVibe ซึ่งเป็นโซลูชันที่ใช้ข้อมูลในการจับคู่แบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์ โดยคำนึงถึงการเข้าถึง ความสนใจ การมีส่วนร่วม คุณภาพเนื้อหา อำนาจ และค่านิยม เพื่อให้การร่วมงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในระยะยาว
“ในประเทศไทย อินฟลูเอนเซอร์มีความสามารถในการสร้างการสนทนาและเปลี่ยนแคมเปญให้กลายเป็นกิจกรรมที่ขับเคลื่อนโดยคอมมูนิตี้ได้อย่างแท้จริง” คุณรฉัตร พวงเพ็ชร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดของวีโร่กล่าว “สิ่งนี้ย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์และความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์”
ในภาพรวม การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2568 ยังคงเต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย การปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มใหม่ๆ และการสร้างความสัมพันธ์ที่โปร่งใสและยั่งยืนจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสำเร็จในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง
