Wednesday, February 12, 2025
ads-AIA
M06_BDC_bizmatchingnewscom1100x300
Tip
Viriyah
Krungthai
MeaungThai
KBank
PRU
SUPALAI
BKKIN
OIC
previous arrow
next arrow
HomeMARKETING & E-COMMERCE การตลาด-อีคอมเมิร์ช"หลิง-ออม" นิวเฟซสมูทอี ดันยอดขายทะยาน 1,000 ล้าน เจาะตลาด Gen Z

“หลิง-ออม” นิวเฟซสมูทอี ดันยอดขายทะยาน 1,000 ล้าน เจาะตลาด Gen Z

สมูทอี เปิดเกมรุกครั้งใหญ่ในปี 2568 พร้อมทุ่มงบ 200 ล้านบาท ดึงสองนักแสดงสาวดาวรุ่ง “หลิง ศิริลักษณ์” และ “ออม กรณ์นภัส” ร่วมสร้างภาพลักษณ์ใหม่ หวังขยายฐานลูกค้า Gen Z

สมูทอี โดยบริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด ผลิตภัณฑ์เวชสำอางสำหรับผิวบอบบางที่ได้รับความไว้วางใจมากว่า 30 ปีและมียอดขายอันดับ 1 ในร้านขายยา ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 เปิดศักราชใหม่ ทุ่มงบ 200 ล้านบาท พลิกโฉมแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่ในรอบกว่า 3 ทศวรรษ ชูจุดยืน “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล”

เดินหน้าเปิดตัวพอร์ตนวัตกรรมสกินแคร์เพื่อผิวบอบบางสวยสุขภาพดีครบวงจรใน 3 สเต็ปง่าย ๆ ล้าง บำรุง และปกป้อง ประเดิมส่ง สมูทอี ซัน แอสตาแซนธิน เซรั่มกันแดดเจนใหม่ที่ผสานคุณค่าจากวิตามินแอสตาแซนธิน ไม่ใช่แค่กันแดดแต่ยังสามารถต้านอนุมูลอิสระจากแดดครั้งแรกในเมืองไทยวางตลาดในเดือนมกราคมนี้ พร้อมเปิดตัว “หลิง-ออม” นิวเฟซออฟสมูทอีคู่ใหม่สร้างการมีส่วนร่วมในกิจกรรมตลอดปีมัดใจผู้บริโภคทุกเจนตั้งแต่ Gen X, Gen Y และขยายฐานสู่ Gen Z

นายธนชัย ชัยกิตติวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมูทอี บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “สมูทอี เป็น Medical Skincare หรือแบรนด์เวชสำอางที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า 30 ปี ผลิตภัณฑ์สมูทอีวางจำหน่ายในเมืองไทยเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ 1991 หรือกว่า 33 ปีมาแล้ว เรามีนวัตกรรมที่ช่วยให้ผิวคนไทยสวยสุขภาพดีอย่างแท้จริง เช่น โฟมไม่มีฟอง ครีมลดรอยแผลเป็น กันแดดไร้เคมี เราเข้าใจดีว่า ความต้องการของ ผู้บริโภคมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ใจร้อนอยากเห็นผลไวจนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง สมูทอีจึงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ เห็นผลจริง อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว ในวันนี้ เราได้เปิดตัวนวัตกรรม เวชสำอางสมูทอี เพื่อผิวบอบบาง 3 สเต็ป ภายใต้จุดยืน “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” ซึ่งเป็นสิ่งที่สมูทอียึดมั่นมาโดยตลอด โดยการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมโดยกลุ่มทีมงานเภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและยาของสมูทอี มีแพทย์ผู้เป็นเชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนานวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่อยากมีผิวสวยสุขภาพอย่างปลอดภัย”

จากเทรนด์ผู้บริโภคสู่การรุกตลาดเวชสำอางเต็มสูบ

จากการสำรวจทัศนคติและการใช้งานสกินแคร์ของผู้บริโภคชาวไทย พบว่า ผู้บริโภคไทยกว่า 40% มีผิวที่บอบบาง

ดังนั้น ผู้บริโภคไม่ได้มีความต้องการแค่ผลิตภัณฑ์ที่บรรเทาอาการแพ้ แต่ยังต้องการมีผิวสวยสุขภาพดีอย่างแท้จริงนอกจากนี้ เทรนด์การใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ตลอดจนการแชร์ความรู้โดยแพทย์ผิวหนัง และคลินิกเสริมความงามมีการเติบโตสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สมูทอีเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่ง สร้างความคึกคักให้กับตลาดผลิตภัณฑ์เวชสำอาง หรือ เดอร์มาสกินแคร์ในประเทศไทยที่มีมูลค่า 15,522 ล้านบาทและเติบโต 15% ในปีที่แล้ว

สมูทอีเปิดเกมรุก 3 กลยุทธ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกเจน

นายธนชัย กล่าวต่อไปว่า “ในปีนี้ เราจึงได้จัดสรรงบประมาณกว่า 200 ล้านบาทเดินหน้า 3 กลยุทธ์หลักรุกตลาดเวชสำอาง โดยกลยุทธ์แรก เรามุ่ง เปิดตัวจุดยืนใหม่ “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” ด้วยการนำเอาความเชี่ยวชาญของสมูทอีกว่า 30 ปีมาสร้างสรรค์นวัตกรรมสกินแคร์ที่เป็น The Right Solutions อ่อนโยนแต่เห็นผลจริงพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไทยที่มีผิวบอบบางทุกเจนอย่างลงตัว”

เภสัชกรศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวเสริมว่า “เนื่องจากเทรนด์ในการดูแลผิวที่เรียกว่า เอสเซนเชียลแคร์เป็นการดูแลที่มุ่งเน้นจุดที่สำคัญ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลผิว สมูทอีจึงเร่งเครื่องกลยุทธ์ที่ 2 นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อผิวบอบบางครบจบใน 3 สเต็ป ล้าง บำรุง และปกป้อง ภายใต้แนวคิด “อ่อนโยนมีประสิทธิภาพ…เห็นผล” เพื่อผิวสวยสุขภาพดี

โดยในวันนี้ เราได้เปิดตัวนวัตกรรมตัวแรก สมูทอี ซัน แอสตาแซนธิน นวัตกรรมเซรั่มกันแดดเจนใหม่ บางเบา ล็อกผิวเด็ก มีส่วนผสมของแอสตาแซนธินครั้งแรกในประเทศไทย”

สมูทอี ซัน แอสตาแซนธิน มีประสิทธิภาพเหนือกว่าเซรั่มกันแดดทั่วไป เนื่องจากไม่ใช่แค่เพียงกันแดด แต่ยังสามารถต้านอนุมูลอิสระจากแดด โดยมีสารสำคัญของแอสตาแซนธิน สารสกัดจากสาหร่ายสีแดงที่ได้รับการยกย่องว่า เป็น King of Antioxidation ช่วยต้านอนุมูลอิสระออกฤทธิ์ได้ดีกว่า Vit C ถึง 6,000 เท่า พร้อมส่วนผสมสำคัญไบโอเรตินอล กลูตาไธโอน ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับใช้ทุกวันและในหน้าร้อน โดยเริ่มจำหน่ายในขนาด 15 มล. ราคา 600 บาท ขนาด 30 มล. ราคา 1,200 บาท ในเดือนมกราคมนี้ ในร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

นอกจากการเปิดตัวสมูทอี ซัน แอสตาแซนธินนี้ สมูทอี ยังมุ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์เอสเซนเชียลแคร์ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ยังมีแผนขนทัพนวัตกรรม สมูท อี นัน ไอออนนิก พีเอช ไฟว์ นิวเจน โฟมล้างหน้าสูตรไม่มีฟองใหม่ แต่มีส่วนผสมที่ได้รับการพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญแล้วว่า ช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส และคุมมันได้ดี พร้อมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งตอบสนองเทรนด์ของผู้บริโภคที่นิยมใช้เซรั่ม เพื่อเร่งผลลัพธ์ให้ผิวสุขภาพดี สมูทจึงได้เปิดตัว สมูทอี คลินิกคัล เซรั่ม ตอกย้ำจุดยืน “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” มี 4 สูตร ได้แก่ สูตรลดรอยสิว สูตรผิวกระจ่างใส สูตรลดริ้วรอย และสูตรเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผู้บริโภคดูแลผิวหน้าได้ง่าย ๆ ที่บ้านใน 3 สเต็ป ล้าง บำรุง และปกป้อง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สมูทอีทั้ง 3 กลุ่มยังเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% ตอกย้ำนโยบายด้านความยั่งยืนของสมูทอี

เภสัชกรศุภาพิชญ์ กล่าวเสริมว่า “นอกจากนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แล้ว เรายังมุ่งเดินหน้ากลยุทธ์ที่ 3 สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ด้วยการเชิญ “หลิงหลิง ศิริลักษณ์ คอง” และ “ออม กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์” สองนักแสดงสาวดาวรุ่งมาเป็น นิวเฟซ ออฟ สมูทอี เนื่องจากหลิงเป็นคนที่มีเสน่ห์และมั่นใจ ส่วนออมก็มี
มีความอ่อนโยนและสนุกสนาน หลิง-ออมจึงเป็นคู่ดาราที่สะท้อนจุดยืน “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” ของสมูทอีได้อย่างลงตัว โดยประเดิมด้วยกิจกรรมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Meet The New Face of Smooth E ที่นี่ในช่วงเย็นวันนี้ พร้อมทั้งเราจะมีกิจกรรมการตลาดร่วมกับหลิง-ออม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคทุกกลุ่มตลอดทั้งปี”

หลิง-ออม ประเดิมงานแรกด้วยสื่อโฆษณาที่โดนใจ ถ่ายทอดอินไซต์ของผู้บริโภคที่มีผิวบอบบาง ด้วยข้อความว่า “เพราะผิวหน้า ไม่ใช่สนามทดลอง ลองจนเจ็บแต่ไม่จบ สมูทอี เจ็บแค่ไหน…จบที่เธอ อ่อนโยน…เห็นผล” ตอกย้ำ 30ปีความไว้วางใจ เวชสำอางสำหรับผิวบอบบาง เชิญชวนให้คนรุ่นใหม่มาดูแลผิวบอบบางง่ายๆ ใน 3 สเต็ปกับสมูทอี ด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ล้างหน้า บำรุง และปกป้องผิวหน้า

นอกจากนี้ สมูทอียังกิจกรรมพิเศษกับการเปิดตัว Pre Valentines Gift Set ปล่อยในงานครั้งนี้ ครั้งแรกของการคอลแลปส์ของสมูทอีกับแบรนด์ AlwaysWonder และ Keepsilent ของหลิง-ออม กับกิ๊ฟเซทสุดพิเศษต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก เป็นลิมิเต็ด เอดิชั่นให้เลือกใน 2 รูปแบบเพื่อให้ลูกค้าได้สะสมในราคา 2,500 บาท พร้อมกิจกรรมในงาน อาทิ โฟโต้บูท ตรวจสภาพผิวหน้า แจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง โดยสามารถซื้อเซทได้ทาง Line @smoothe_thailand ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กิ๊ฟเซทมีจำนวนจำกัด หรือจนกว่าของจะหมด

เภสัชกรศุภาพิชญ์ กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ เรายังสานต่อการทำจัดกิจกรรม Mobile Clinic ตรวจสภาพผิวและให้คำแนะนำในการดูแลผิวแก่ผู้บริโภคทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้น สมูทอี กำลังทำโปรเจคพิเศษร่วมกับแพทย์ผิวหนังระดับประเทศในการเปิดคลินิกความงาม สมูทอี ที่พิเศษกว่าคลินิกอื่นๆ แน่นอน ซึ่งจะมีอัปเดตในเร็ว ๆ นี้”

นายธนชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรามั่นใจว่า นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่อยากจะสวยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน โดยสมูทอียังคงรักษามาตรฐาน “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” ซึ่งเป็นจุดยืนของสมูทอี การเปิดตัวนิวเฟซออฟสมูทอี ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ จะทำให้สมูทอีครองใจผู้บริโภคที่มีผิวบอบบางในวงกว้าง และก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดเมดิคอล สกินแคร์ในประเทศไทยได้สำเร็จ”

สมูทอี ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เวชสำอางสกัดจากธรรมชาติที่อยู่คู่ตลาดไทยมากว่า 30 ปี ประกาศเป้าหมายใหม่ในการเพิ่มรายได้รวมเป็น 1,000 ล้านบาทในปี 2567 พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้า Gen Z ด้วยการปรับกลยุทธ์แบรนด์ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการตอกย้ำจุดยืน “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” ซึ่งสะท้อนคุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่สมูทอีสร้างสรรค์มาโดยตลอด

นายธนชัย ชัยกิตติวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เผยว่าปี 2566 สมูทอีสามารถทำรายได้รวมประมาณ 800 ล้านบาท โดยในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าขยายตัวอีก 25% สู่ยอดขาย 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่มาพร้อมกับความเชื่อมั่นในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้อย่างตรงจุด

เดินหน้าปฏิวัติผลิตภัณฑ์ ผสานนวัตกรรมใหม่

สมูทอีมองเห็นโอกาสสำคัญในการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวพรรณ ความสวยงาม และการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงได้ลงทุนงบประมาณกว่า 200 ล้านบาทในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และขยายการตลาดเชิงรุก

หนึ่งในไฮไลต์ของปีนี้คือการเปิดตัวเซรั่มกันแดด Smooth E Sun Astaxanthin ที่ไม่เพียงแต่ปกป้องผิวจากรังสี UV แต่ยังมีส่วนผสมของแอสตาแซนธิน สารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ผิวและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ สมูทอียังพัฒนาผลิตภัณฑ์เวชสำอางใน 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ล้าง บำรุง และปกป้อง โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Smooth E Non-Ionic pH5 Foam และ Smooth E Clinical Serum ที่ออกแบบมาเพื่อดูแลผิวบอบบางและตอบโจทย์ปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ

สร้างการเชื่อมต่อกับลูกค้าด้วย “หลิง-ออม”

เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ สมูทอีได้เปิดตัวสองนักแสดงสาวดาวรุ่ง “หลิง ศิริลักษณ์ คอง” และ “ออม กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์” ในฐานะนิวเฟซของแบรนด์ โดยทั้งคู่สะท้อนภาพลักษณ์ “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” ได้อย่างชัดเจน ผ่านการสื่อสารที่โดนใจและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกเจน

กิจกรรมการตลาดที่สร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภคยังคงเป็นหัวใจหลักของแผนการดำเนินงานปีนี้ โดยสมูทอีจัดกิจกรรมพิเศษและโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย พร้อมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดียและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงานอีเวนต์ต่าง ๆ

พลิกโฉมสู่วิสัยทัศน์แห่งความยั่งยืน

นอกจากการมุ่งเน้นการเติบโต สมูทอียังตอกย้ำความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืนด้วยการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถรีไซเคิลได้ 100% รวมถึงการเดินหน้าขยายการให้บริการ Mobile Clinic เพื่อให้คำแนะนำด้านการดูแลผิวพรรณแก่ผู้บริโภคทั่วประเทศ

ด้วยกลยุทธ์ที่ครบวงจรและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง สมูทอีเชื่อมั่นว่า แบรนด์จะสามารถครองใจผู้บริโภคในยุคใหม่ พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดเวชสำอางในประเทศไทยอย่างยั่งยืน

Loading

RELATED ARTICLES
www.bangkokinsurance.com
https://bit.ly/3TuonYG
https://bit.ly/3TuonYG
MRDIY ADS
2023_BKI-UpCountry_Size-1076x1521px
ThaiIns
BAAC
previous arrow
next arrow

Most Popular