ฝ่ายปกครอง ตำรวจท่องเที่ยว สมาคมท่องเที่ยว ลงพื้นที่ถนนคนเดินปายสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยว
ไขข้อเท็จจริง: นักท่องเที่ยวอิสราเอลในปาย มีผลกระทบต่อชุมชนจริงหรือ?
ช่วงที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวอิสราเอลที่เดินทางมายังอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจำนวนมาก โดยบางกระแสอ้างถึงการตั้งถิ่นฐานและสร้างชุมชนในลักษณะของ “ดินแดนพันธะสัญญา” ซึ่งทำให้เกิดข้อกังวลต่อประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงระบุว่า ปัจจุบัน อำเภอปายมีประชากรราว 38,000 คน ขณะที่ตัวเลข 30,000 คนที่ปรากฏในข่าวเป็นยอดสะสมตลอดทั้งปีของนักท่องเที่ยวอิสราเอลที่แจ้งเข้าพักตามมาตรา 38 (ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ไม่ใช่จำนวนที่พำนักถาวร โดยค่าเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวอิสราเอลที่เข้าพักในปายอยู่ที่ประมาณ 83-84 คนต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของปายคือ ชาวอังกฤษ อิสราเอล อเมริกัน และเยอรมัน ตามลำดับ
สำหรับศูนย์ชาบัด (Chabad) หรือโบสถ์ยิวในปาย เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาและใช้รับประทานอาหารในวันศุกร์และเสาร์ มีขนาดพื้นที่ราว 2 งาน และสามารถรองรับผู้เข้าร่วมได้ประมาณ 200 คน ซึ่งในประเทศไทยมีศูนย์ชาบัดทั้งหมด 7 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย พัทยา พะงัน และกรุงเทพฯ โดยกรุงเทพฯ เป็นศูนย์ที่ใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวอิสราเอลที่เดินทางเข้ามาในอำเภอปายล้วนผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีการตั้งถิ่นฐานในลักษณะของ “ดินแดนพันธะสัญญา” แต่อย่างใด รวมถึงไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ามีการพยายามเข้าครอบครองพื้นที่เพื่อการตั้งรกรากถาวร
ข้อกังวลเกี่ยวกับการแย่งอาชีพคนไทยนั้น ได้มีการเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านธุรกิจรถเช่า กิจกรรมล่องห่วงยาง (Tubing) และการใช้กัญชาในพื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อป้องกันปัญหาทางสังคมและคงไว้ซึ่งความเป็นระเบียบของพื้นที่ท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐยังคงติดตามสถานการณ์และดำเนินมาตรการเพื่อให้การท่องเที่ยวในอำเภอปายเป็นไปอย่างสมดุล ทั้งในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของชุมชนท้องถิ่นต่อไป
![]()















