จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.2 แมกนิจูด ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลให้พื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและภาคเหนือ รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มีรายงานความเสียหายหลายจุด โดยเฉพาะตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในเขตจตุจักร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้พังถล่มลงมา ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และตรวจสอบพบว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าวมีการทำประกันภัยประเภท Construction All Risk (CAR) ไว้กับ 4 บริษัทประกันภัยชั้นนำ ได้แก่ ทิพยประกันภัย กรุงเทพประกันภัย อินทรประกันภัย และวิริยะประกันภัย ซึ่งครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้
เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง สำนักงาน คปภ. ได้จัดตั้ง War Room หรือศูนย์ช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัย ณ สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงสั่งการให้สำนักงาน คปภ. ภาคและจังหวัดทั่วประเทศติดตามและรายงานความเสียหายเป็นระยะ พร้อมร่วมมือกับภาคธุรกิจประกันภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
เลขาธิการ คปภ. ยังเน้นย้ำให้ประชาชนและผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ตรวจสอบกรมธรรม์ของตนเองว่ามีความคุ้มครองภัยแผ่นดินไหวหรือไม่ และหากอยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครอง ให้รีบแจ้งความเสียหายกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
สำนักงาน คปภ. จะเดินหน้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกมิติ พร้อมยืนยันถึงความสำคัญของการประกันภัยในฐานะเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่สามารถช่วยบรรเทาความสูญเสียให้กับประชาชนและภาคธุรกิจในยามเกิดภัยพิบัติได้อย่างแท้จริง