บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดตัววิสัยทัศน์ยุคใหม่ภายใต้การนำของ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ โดยตั้งเป้ายกระดับองค์กรให้เป็น “Business Recycling Machine” ที่ไม่เพียงบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL และ NPA) อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเน้นการช่วยพลิกฟื้นลูกหนี้ให้สามารถกลับมาเดินหน้าต่อได้อย่างยั่งยืน เสริมแกร่งระบบเศรษฐกิจ และสร้างการเติบโตให้กับสังคมไทย
ดร.รักษ์ เปิดเผยว่า BAM จะไม่หยุดอยู่แค่บทบาทของ AMC (Asset Management Company) แบบเดิมอีกต่อไป แต่จะขับเคลื่อนองค์กรด้วยกลยุทธ์สำคัญ “3P” ได้แก่ People, Partnerships และ Platforms/Process เพื่อสร้างมูลค่าในทุกมิติ ทั้งผู้ถือหุ้น ลูกหนี้ พนักงาน คู่ค้า และลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเต็มรูปแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการทุกกลุ่มเป้าหมาย
ในส่วนของ People BAM มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ด้วยการยกระดับองค์กรให้เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือในระดับชาติ
ลูกหนี้และลูกค้า โดยให้โอกาสในการปรับโครงสร้างหนี้ และให้บริการที่รวดเร็วสำหรับผู้ซื้อทรัพย์
พนักงาน ด้วยการส่งเสริมการเติบโต พร้อมระบบสวัสดิการที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
ด้าน Partnerships BAM เดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และการเงิน เพื่อช่วยฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เชิงพาณิชย์ และเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินรอการขายให้เป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ
ส่วน Platforms/Process คือหัวใจสำคัญของการทรานส์ฟอร์มองค์กร โดย BAM ได้พัฒนา “BAM Digital” และ BAM Choice Application ที่ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมผ่านสมาร์ตโฟนได้อย่างสะดวก พร้อมฟีเจอร์ BAM Select สำหรับค้นหาและเปรียบเทียบทรัพย์ และระบบ BAM Auto ที่ใช้ AI วิเคราะห์และแนะนำทรัพย์ให้ตรงใจผู้ใช้งาน เสริมศักยภาพการขาย และลดงานที่ซ้ำซ้อนภายในองค์กร
ข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นปี 2567 BAM มีหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) ภายใต้การบริหารจำนวน 503,603 ล้านบาท คิดเป็น 24.86% ของระบบการเงิน และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) จำนวน 74,517 ล้านบาท หรือ 38.50% ของระบบ ซึ่งสะท้อนบทบาทของ BAM ในฐานะกลไกสำคัญในการช่วยพยุงระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อได้อย่างมั่นคง
“เรามอง BAM เป็นมากกว่าบริษัทบริหารหนี้ แต่คือองค์กรที่ช่วย ‘รีไซเคิล’ ความเสี่ยง ให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ พร้อมทั้งเป็นแรงสนับสนุนให้ลูกหนี้สามารถฟื้นตัวและเริ่มต้นใหม่ได้” ดร.รักษ์ กล่าวทิ้งท้าย
![]()














