กรุงเทพฯ – 1 กรกฎาคม 2568 | ภายใต้สภาพแวดล้อมเศรษฐกิจไทยที่ยังเต็มไปด้วยความท้าทายจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ “กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์” (Krungsri Global Markets) ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจสำคัญของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่การเป็น “ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน” อย่างไม่หยุดยั้ง โดยมุ่งเน้น 4 กลยุทธ์หลักเพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4 กลยุทธ์สำคัญหนุนธุรกิจเติบโตสวนเศรษฐกิจ
นาย ฮิโรทากะ คุโรกิ (Mr. Hirotaka Kuroki) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า
> “หากพิจารณาสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าความไม่แน่นอนและความผันผวนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะภาคการส่งออกซึ่งยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ ยังคงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนลูกค้าไทยให้สามารถฝ่าวิกฤตได้อย่างมั่นคง”
ในปี 2568 ธนาคารเดินหน้ากลยุทธ์ 4 ด้าน ได้แก่
1. ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เชื่อมโยงกับ ESG
กรุงศรีเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สอดรับกับแนวคิด ESG เช่น ESG-linked FX และ ESG-linked Interest Rate Derivatives ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณธุรกรรมรวมราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงแนวโน้มที่ลูกค้าทั่วโลกให้ความสำคัญกับการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
2. ขยายธุรกรรมในสกุลเงินเกิดใหม่
เพิ่มความสามารถรองรับธุรกรรมในตลาดใหม่ ๆ เช่น เงิน เดอร์แฮม (AED) จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เปโซเม็กซิโก (MXN) โดยในปี 2567 ธุรกรรมในสกุลเงินเกิดใหม่ของธนาคาร เติบโตขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงการตอบโจทย์ธุรกิจไทยที่ขยายไปสู่ตลาดตะวันออกกลางและละตินอเมริกามากขึ้น
3. เร่งการเติบโตผ่านช่องทางดิจิทัล
พัฒนาแพลตฟอร์ม FX@Krungsri อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ฐานลูกค้าธุรกรรมดิจิทัลเพิ่มขึ้น 138% ขณะที่ในไตรมาส 1/2568 สัดส่วนการซื้อขาย FX ผ่านช่องทางดิจิทัลคิดเป็น 26% ของธุรกรรม FX ทั้งหมดที่ทำผ่านระบบออนไลน์
4. นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบโจทย์ลูกค้า
ไม่จำกัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ FX หรือดอกเบี้ยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องมือบริหารความเสี่ยง เช่น Bond Forward ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าและนักลงทุนสามารถล็อกราคาซื้อขายพันธบัตรล่วงหน้า เพื่อลดความเสี่ยงด้านตลาดและสภาพคล่อง
ปริมาณธุรกรรม FX ขยายตัว 10% ในไตรมาสแรก
ผลจากการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกทำให้ในไตรมาส 1/2568 ปริมาณธุรกรรม FX ของ Krungsri Global Markets ขยายตัวถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเติบโตเหนือกว่าอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจและการส่งออกของประเทศในช่วงเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของธนาคารในการสนับสนุนลูกค้าให้ก้าวผ่านภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนได้อย่างมั่นคง
แนวโน้มค่าเงินและนโยบายดอกเบี้ย: ผันผวนสูงในครึ่งปีหลัง
นางสาว รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ให้มุมมองว่า
> “ครึ่งปีหลังของ 2568 จะเป็นช่วงที่ค่าเงินทั่วโลกกลับมา ‘ผันผวนสูง’ จากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ โดยเฉพาะผลของนโยบายภาษีภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งกดดันให้ ดอลลาร์อ่อนค่า และสร้างแรงกระเพื่อมต่อค่าเงินในกลุ่มเศรษฐกิจกำลังพัฒนา”
ทั้งนี้ Krungsri คาดการณ์ว่า เงินบาท จะมีแนวโน้ม แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ในไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.75 – 34.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หากเฟด (Fed) มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ รวมถึงความไม่แน่นอนในตลาดทุนและตลาดพลังงานที่ยังคงสูง
นอกจากนี้ เธอเสริมว่า สกุลเงินของประเทศส่งออกสูงอย่างเงินบาท อาจเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของการค้าโลก รวมถึงการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% จากระดับปัจจุบันที่ 1.75% เพื่อประคองเศรษฐกิจไทยที่เผชิญแรงกดดันหลายด้าน
ปักหมุดสู่การเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน
Krungsri Global Markets ยังคงยึดมั่นในพันธกิจ “เติบโตอย่างยั่งยืน” ผ่านการบริหารความเสี่ยงแบบมีเป้าหมาย สนับสนุนลูกค้าด้วยเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ สอดรับกับเทรนด์โลก ทั้งด้าน ESG และดิจิทัล เพื่อก้าวเป็นผู้นำในตลาดทุนระดับภูมิภาค