สมาคมประกันวินาศภัยไทย ภายใต้การนำของ ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมฯ วาระที่ 2 ประกาศแผนยุทธศาสตร์ประจำปี 2568–2570 โดยเน้นบทบาทของธุรกิจประกันวินาศภัยในการเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างยั่งยืน พร้อมชูพันธกิจหลักในการยกระดับความเชื่อมั่นประชาชน ส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยี พัฒนากฎระเบียบ และสร้างระบบนิเวศด้านบุคลากรในอุตสาหกรรม
แผนดังกล่าวครอบคลุมการขยายบทบาทของสมาคมในด้านการสื่อสารกับประชาชน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประกันภัย รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัย เช่น InsurTech และการใช้ Big Data เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดรับกับภัยคุกคามยุคใหม่ อาทิ ภัยพิบัติจากไซเบอร์
ขณะเดียวกัน สมาคมฯ ยังมุ่งผลักดันให้มีการปรับปรุงกฎระเบียบและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การจัดตั้งระบบฐานข้อมูลกลาง (Centralized Data) และการเปิดช่อง Regulatory Sandbox เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมประกันภัยที่กำลังเติบโต พร้อมเสนอให้รัฐปรับข้อจำกัดด้านการลงทุนของบริษัทประกันภัย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ
ด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล สมาคมฯ วางแนวทางเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ภาครัฐ และสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีทักษะสูง ตอบโจทย์โลกอนาคต พร้อมเชื่อมโยงองค์ความรู้กับเวทีสากล
สำหรับภาพรวมธุรกิจประกันวินาศภัยในไตรมาสแรกของปี 2568 ข้อมูลจากสมาคมฯ ระบุว่า มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 75,269 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประกันภัยรถยนต์ยังครองสัดส่วนหลักถึง 42,004 ล้านบาท เติบโต 1.36% ตามด้วยประกันภัยเบ็ดเตล็ดที่เติบโตถึง 8.01% จากความต้องการที่หลากหลาย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ อุตสาหกรรมจะมีอัตราเติบโตระหว่าง 1.5–2.5% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 291,000–294,000 ล้านบาท
ในปีนี้ สมาคมฯ ยังเตรียมจัดงานใหญ่ระดับภูมิภาค “Thailand Reinsurance Conference 2025” หรือ TRC 2025 ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “Unlocking Reinsurance Opportunities in a Changing Climate: Building Catastrophe Resilience in Thailand” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงแรมดิ แอทธินี กรุงเทพฯ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจากทั่วโลกกว่า 400 ราย
จากภาพรวมทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสมาคมภายใต้การบริหารของ ดร.สมพร ในการนำพาอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยไทยให้สามารถตอบรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
