สมาคมการค้ายาสูบไทย เผยสถานการณ์น่าวิตก บุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศไทยพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 1 ปี 2568 ที่ 28.1% เพิ่มขึ้นจาก 25.4% ในการสำรวจครั้งก่อน ส่งผลให้เศรษฐชาติเสียหายรวมกว่า 30,000 ล้านบาท โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่างที่ยังคงครองแชมป์การบริโภคบุหรี่เถื่อน นำโดยจังหวัดสตูล (94.4%) สงขลา (90.8%) พัทลุง (82.3%) ภูเก็ต (73.3%) และนครศรีธรรมราช (61.1%)
ข้อมูลจากการสำรวจซองบุหรี่เปล่าของอุตสาหกรรมยาสูบระบุว่า ปัญหานี้ลุกลามเกินพื้นที่ชายแดน เพราะแม้แต่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น นนทบุรี สมุทรปราการ ก็ยังติด 10 อันดับแรกของจังหวัดที่มีการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายสูงสุด แม้กรมสรรพสามิตจะเร่งปราบปรามอย่างต่อเนื่องในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ก็ตาม
นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า “แนวโน้มที่น่ากังวลคือการเพิ่มขึ้นของบุหรี่เถื่อนจากประเทศกัมพูชา ซึ่งมีราคาถูกและถูกลักลอบนำเข้ามาขายอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งการลดราคา โฆษณา แบ่งขาย หรือสั่งซื้อออนไลน์ ส่งผลให้ร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ถูกกฎหมายไม่สามารถแข่งขันได้”
บุหรี่เถื่อนที่ไหลทะลักเข้าสู่ประเทศคิดเป็นประมาณ 8,000 ล้านมวน ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษีทั้งสิ้นเกือบ 25,000 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบซึ่งสูญเสียรายได้กว่า 260 ล้านบาท และร้านค้าที่ถูกกฎหมายอีกกว่า 2,300 ล้านบาท
สมาคมฯ ยังเตือนถึงความเสี่ยงของขบวนการลักลอบที่อาจเปลี่ยนเส้นทางผ่านจุดผ่อนปรนชายแดน หรือช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ จันทบุรี ตราด และสระแก้ว ซึ่งใช้วิธีขนส่งบุหรี่เถื่อนผ่านพัสดุไปรษณีย์และบริษัทขนส่งเอกชนกระจายไปทั่วประเทศ
ทั้งนี้ สมาคมการค้ายาสูบไทย เรียกร้องให้ รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการปราบปรามอย่างจริงจังและเด็ดขาด เช่นเดียวกับที่เคยดำเนินการกับบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อปกป้องผู้ประกอบการร้านค้ายาสูบถูกกฎหมายกว่า 400,000 รายทั่วประเทศ พร้อมทั้งย้ำว่าปัญหานี้ได้ลุกลามถึงขั้นวิกฤติ และไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป
ที่มา: สมาคมการค้ายาสูบไทย