กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) จัดสัมมนา Mid-Year Economics and Investment Outlook 2025 เปิดมุมมองเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการลงทุนครึ่งปีหลัง ชี้ภาพรวมยังเผชิญความผันผวนจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองโลก พร้อมแนะนำกลยุทธ์จัดพอร์ตแบบ “Core & Satellite” เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเน้นหุ้นสหรัฐฯ ยุโรป จีน และอินเดียเป็นแกนสำคัญของการลงทุนระยะกลางถึงยาว
ดร.พิมพ์นารา หิรัญกสิ หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีฯ ระบุว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้ยังมีแนวโน้มชะลอตัว โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยูโรโซนที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตเพียง 2.1% ต่ำกว่าศักยภาพ โดยอาจเหลือเพียง 1.5% หากได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
ผู้เชี่ยวชาญจาก Allianz Global Investors, First Sentier Investors, Schroders, Fidelity International และกรุงศรี ไพรเวทแบงก์ แนะนำให้ลงทุนใน “หุ้นสหรัฐฯ คุณภาพสูง” ที่แม้จะเผชิญความผันผวน แต่ยังคงโดดเด่นในแง่ของผลประกอบการต่อเนื่อง 9 ไตรมาสติดต่อกัน พร้อมทั้งชี้ให้เห็นโอกาสในตลาด ยุโรป ที่ได้อานิสงส์จากนโยบายการคลัง, หุ้นจีน A-Shares ที่ได้รับแรงหนุนจากภาครัฐ และ หุ้นอินเดีย ที่เติบโตต่อเนื่องจากกำลังซื้อภายในประเทศและประชากรวัยแรงงานขนาดใหญ่
กลยุทธ์ที่แนะนำในพอร์ตหลัก (Core Portfolio) คือการลงทุน 50–70% ในหุ้นสหรัฐฯ และกองทุนผสม เช่น KFGDB-A, KFGDA-A ส่วนพอร์ตเสริม (Satellite Portfolio) ควรกระจายไปยังหุ้นรายประเทศ เช่น KT-Ashares-A, KFHEUROP-A, KFINDIA-A, กองทุนหุ้นปันผลทั่วโลกอย่าง KFGDIV-A และ Private Assets ผ่านกองทุนอย่าง KFGPE-UI
นอกจากนี้ ยังมีแนะนำสินทรัพย์นอกตลาดที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ เช่น Structured Notes อย่าง Bullish Shark-Fin Note หรือ Fixed Coupon Note เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวม
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถรับชมสัมมนาย้อนหลังได้ทาง YouTube: Krungsri Simple
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Krungsri Private Banking / Krungsri Exclusive โทร. 02-296-5566 หรือ LINE: @KrungsriExclusive
> หมายเหตุ: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน