31 กรกฎาคม 2568 – กองทัพบกไทยออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ยุทธศาสตร์ เนิน 350 และ ปราสาทตาควาย ที่เป็นประเด็นถกเถียงในสังคม หลังเกิดเหตุปะทะและมีข้อมูลหลากหลายกระแส
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ในทางยุทธศาสตร์ เนิน 350 คือเป้าหมายสูงสุดทางทหาร เนื่องจากอยู่ในจุดสูงที่มีความสำคัญต่อการควบคุมพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ ปราสาทตาควาย แม้เป็นจุดที่ประชาชนให้ความสนใจ แต่ในเชิงทหารจัดเป็นพื้นที่ต่ำ และหากวางกำลังในจุดดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงต่อการโจมตี จึงไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์หลัก
> “แม้เรายังไม่ได้ประจำการบนตัวปราสาทตาควายโดยตรง แต่เราสามารถควบคุมพื้นที่โดยรอบได้มากกว่าก่อนที่จะมีการปะทะ และเราสามารถใช้การควบคุมทางยุทธวิธีด้วยอาวุธยิงได้” โฆษกกองทัพบกระบุ
สำหรับเหตุการณ์ในช่วงเย็นก่อนเข้าสู่ข้อตกลงหยุดยิง โฆษกเผยว่า กำลังพลไทยเผชิญกับสนามทุ่นระเบิดบริเวณรอบปราสาทตาควาย ส่งผลให้มีทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งกระทบต่อจังหวะการรุกขั้นสุดท้าย
ในประเด็นที่มีภาพทหารกัมพูชาอยู่ในตัวปราสาทตาควาย โฆษกชี้แจงว่า เป็นเพราะสถานการณ์การหยุดยิงที่มีผลบังคับ ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติการเชิงรุกได้เพิ่มเติม และย้ำว่า “การอยู่หรือไม่อยู่ในตัวสิ่งปลูกสร้าง ไม่ได้สะท้อนผู้แพ้หรือชนะในทางทหาร เพราะสิ่งสำคัญคือ การควบคุมพื้นที่โดยรอบ”
นอกจากนี้ ยังมีการตอบข้อสงสัยกรณีทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัว โดยโฆษกกองทัพบกระบุว่า เป็นการดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายสากล และอยู่ในกระบวนการสอบสวนตามปกติ พร้อมเตือนให้ใช้วิจารณญาณกับข้อมูลจากฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะคำว่า “ลักพาตัว” หรือ “เชลยศึก” ซึ่งอาจบิดเบือนข้อเท็จจริงและกระทบต่อเวทีระหว่างประเทศ
โฆษกยังกล่าวถึงแผนการลงพื้นที่ของผู้แทนจากนานาชาติที่เตรียมเข้ามาสังเกตการณ์สถานการณ์ โดยมีมากกว่า 10 ประเทศที่ให้ความสนใจ ซึ่งจะมีการพาเยี่ยมชมในจุดที่กัมพูชาเคยกล่าวอ้างผิดจากข้อเท็จจริง เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล หรือร้านค้าเป้าหมายพลเรือน เพื่อให้เห็น “ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์”
เมื่อถูกถามถึงความล่าช้าในการสื่อสารว่า “ยังไม่สามารถควบคุมตัวปราสาทได้” โฆษกยอมรับว่า “อาจเป็นความผิดพลาดของทีมโฆษกที่สื่อสารได้ไม่ละเอียด” พร้อมย้ำว่า มุมมองทางทหารให้ความสำคัญกับการควบคุมภูมิประเทศ ไม่ใช่แค่สิ่งปลูกสร้าง
> “เราไม่ได้หมายถึงตัวปราสาทอย่างเดียว แต่หมายถึง พื้นที่ยุทธศาสตร์โดยรอบ ที่สามารถควบคุมได้มากกว่าเดิม นั่นคือเป้าหมายของเรา”
