สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พร้อมด้วยสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ประกาศจุดยืนสนับสนุนนโยบายภาครัฐ เดินหน้าโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ที่มุ่งลดภาระค่าใช้จ่ายด้านยาและการรักษาพยาบาลของประชาชน โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการลงนามความร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการค้าภายใน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน
โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลเอกชนสามารถนำใบสั่งแพทย์ไปซื้อยาจากร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการได้ โดยร้านขายยาต้องเปิดเผยราคายาโปร่งใส และปฏิบัติตามมาตรฐาน อย. อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องใช้ยาต่อเนื่อง ซึ่งนโยบายนี้มีผลสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้เอาประกันภัย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ยังสูงต่อเนื่อง ทำให้ค่ารักษาและค่ายาเพิ่มขึ้น วงเงินกรมธรรม์อาจไม่เพียงพอ การเปิดทางให้ซื้อยาภายนอกได้จึงเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยบริหารวงเงินค่ารักษา ลดโอกาสที่วงเงินจะหมดก่อนครบความคุ้มครอง
คปภ. เปิดเผยว่า ได้ประชุมกับภาคธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์รองรับมาตรการดังกล่าว โดยอนุญาตให้ผู้เอาประกันภัยสามารถยื่นใบเสร็จค่ายาจากร้านขายยาภายนอกประกอบการเคลมสินไหมได้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์เช่นเดียวกับการรับยาในโรงพยาบาล ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยต้องตรวจสอบความถูกต้องของใบสั่งแพทย์ ใบเสร็จ รวมถึงมาตรฐานร้านขายยาที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
คปภ. ย้ำว่าจะติดตามและประเมินผลร่วมกับภาคประกันภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มาตรการเกิดประโยชน์จริง ลดภาระค่ารักษาพยาบาล และเสริมเสถียรภาพของระบบประกันสุขภาพไทยในระยะยาว พร้อมเดินหน้าพัฒนากลไกกำกับดูแลเชิงรุก และส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ คุ้มค่า และปลอดภัย ท่ามกลางภาวะค่ารักษาที่สูงขึ้นและความท้าทายด้านสุขภาพในอนาคต
![]()













