Saturday, December 13, 2025
3-TOA
previous arrow
next arrow
HomeINSURANCEคปภ. เพิกถอนใบอนุญาตตัวแทนฉ้อโกง 100 ล้าน – ผู้เสียหายอย่างน้อย 12 ราย บทเรียนใหญ่ของธุรกิจประกันชีวิตและความเชื่อมั่นประชาชน

คปภ. เพิกถอนใบอนุญาตตัวแทนฉ้อโกง 100 ล้าน – ผู้เสียหายอย่างน้อย 12 ราย บทเรียนใหญ่ของธุรกิจประกันชีวิตและความเชื่อมั่นประชาชน

กรณีการเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตของ นางสาวจันเกตุ ทับบุญ กลายเป็นประเด็นที่สะเทือนวงการประกันภัยไทย และเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่า “ความเชื่อมั่นของประชาชน” คือหัวใจของธุรกิจประกันชีวิต—หัวใจที่อาจสั่นคลอนได้จากการทุจริตเพียงรายเดียว

เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่คดีฉ้อโกงธรรมดา แต่เป็น การฉ้อฉลประกันภัยมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท สร้างความเสียหายให้ผู้เอาประกันภัยอย่างน้อย 12 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อมั่นในตัวแทนคนนี้จากความสนิทสนมและการสร้างภาพลักษณ์ที่น่าไว้วางใจ

กลลวงที่เริ่มจาก “ความเชื่อใจ”

ผู้เสียหายหลายรายเล่าว่า วิธีการหลอกลวงเริ่มจากข้อเสนอที่ดูเหมือน “พิเศษเฉพาะคุณ” เช่น

ส่วนลดเบี้ยประกัน 15%

การแถม ทองคำ หากชำระเบี้ยผ่านตัวแทนโดยตรง

การเร่งรีบให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว โดยอ้างว่าบริษัทมีโปรโมชันลับ

ข้อเสนอเหล่านี้ทำให้ผู้เอาประกันหลายคนหลงเชื่อ เพราะตัวแทนอยู่ในสังกัดบริษัทใหญ่และมีผลงานดีในอดีต แต่เบื้องหลังกลับเป็นการ ไม่นำส่งเงินเข้าบริษัท ทำให้กรมธรรม์หลายฉบับ “ไม่มีผลบังคับจริง”

กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่า

> “ความใกล้ชิด ไม่เท่ากับความปลอดภัยทางการเงิน”

คปภ. งัดกฎหมายจัดการเด็ดขาด

สำนักงาน คปภ. ไม่เพียงสั่งเพิกถอนใบอนุญาต แต่ยังเร่งดำเนินคดีตามกฎหมายฐาน “ฉ้อฉลประกันภัย” โดยส่งสำนวนเข้าสู่กองบังคับการ ปอศ. และอยู่ระหว่างออกหมายเรียกผู้กระทำผิด

การไม่มาชี้แจงตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายโดยตรง ทำให้คำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต เลขที่ 75/2568 ถูกประกาศในทันที ถือเป็นคดีตัวอย่างที่ย้ำว่า

> ธุรกิจประกันภัยต้องยึดความโปร่งใสเหนือทุกอย่าง—แม้แต่ตัวแทนที่เคยทำผลงานดี ก็ไม่อยู่เหนือการตรวจสอบ

บทบาทของไทยประกันชีวิต: เร่งรับผิดชอบ – เร่งปิดช่องโหว่

ไทยประกันชีวิตในฐานะบริษัทต้นสังกัด ชี้แจงว่ามีการตรวจสอบและสั่งพ้นสภาพตัวแทนตั้งแต่ 3 ตุลาคม 2568 ก่อนที่คปภ. จะประกาศเพิกถอนอย่างเป็นทางการ

บริษัทประกาศ 3 แนวทางสำคัญดังนี้:

1. ช่วยเหลือผู้เสียหายที่มีหลักฐานชัดเจน

ผู้ที่มีหลักฐานการโอนเงินครบถ้วนจะได้รับการดูแลตามสิทธิของผู้เอาประกันภัยโดยไม่ให้เสียเปรียบ

2. ดำเนินคดีทางกฎหมายแบบถึงที่สุด

ผู้กระทำผิด รวมถึงผู้ที่ร่วมขบวนการนำเอกสารบริษัทไปใช้หลอกลวง จะถูกดำเนินการทางอาญาในทุกข้อหา

3. ปรับระบบป้องกันทุจริตครั้งใหญ่

ยกเลิกการรับเงินสดสำหรับลูกค้าใหม่

เปลี่ยนใบเสร็จชั่วคราวเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์

ขยายช่องทางตรวจสอบกรมธรรม์ผ่านแอปและเว็บไซต์

มาตรการเหล่านี้สะท้อนความตั้งใจของบริษัทที่จะเยียวยาอย่างจริงจัง พร้อมฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระยะยาว

“ผู้เสียหาย 12 ราย” คือสัญญาณว่าช่องโหว่ในอุตสาหกรรมยังมีอยู่

แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากตัวแทนหนึ่งราย แต่ผลกระทบกลับขยายเป็นวงกว้าง เพราะระบบการชำระเบี้ยที่ยังเปิดช่องให้ตัวแทนรับเงินสดหรือใช้วิธีการที่ตรวจสอบยาก

คปภ. จึงสั่งการให้บริษัทประกันทุกแห่งต้องเข้มงวดมากขึ้น ได้แก่

เบี้ยประกันต้องโอนเข้าบัญชีบริษัทเท่านั้น

ตัวแทนที่รับเงินสดโดยไม่ได้แจ้งระบบจะถือว่าผิดกฎร้ายแรง

สร้างฐานข้อมูล “ตัวแทนเสี่ยงสูง” เพื่อป้องกันพฤติกรรมซ้ำซ้อนในอุตสาหกรรม

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของ มาตรฐานทั้งอุตสาหกรรม

บทเรียนสำคัญสำหรับประชาชน

เหตุการณ์นี้สอนเราหลายอย่าง โดยเฉพาะในยุคที่มิจฉาชีพมีความสามารถในการสร้างภาพลักษณ์และสร้างความไว้วางใจสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ประชาชนควรปฏิบัติ 4 ข้อนี้เป็นมาตรฐาน:

1. อย่าโอนเงินเข้าบัญชีบุคคล แม้จะเป็นตัวแทนที่รู้จักมานานก็ตาม

2. ตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ในแอป/เว็บไซต์ทันทีหลังชำระเบี้ย

3. สงสัยทุกครั้งที่มีส่วนลดหรือของแถมพิเศษผิดปกติ

4. โทรเช็กกับ Call Center ของบริษัท ก่อนทำรายการที่ไม่มั่นใจ

อุตสาหกรรมประกันภัยต้องตอบคำถามใหญ่

เหตุการณ์ฉ้อโกงนี้สะท้อนประเด็นที่อุตสาหกรรมต้องเร่งตอบให้ชัดเจน:

ระบบตรวจสอบตัวแทนเข้มแข็งพอหรือไม่?

บริษัทประกันให้ความสำคัญกับการป้องกันทุจริตมากน้อยแค่ไหน?

ความโปร่งใสในกระบวนการชำระเบี้ยได้มาตรฐานเพียงใด?

เพราะท้ายที่สุด ธุรกิจประกันชีวิตขาย “คำมั่นสัญญาในอนาคต” และคำมั่นนั้นจะไร้ความหมายทันที หากประชาชนไม่มั่นใจในระบบ

สรุป

คดีตัวแทนฉ้อโกงผู้เสียหายอย่างน้อย 12 ราย มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันให้ทั้งอุตสาหกรรมต้องยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภค

คปภ. แสดงให้เห็นว่ากฎหมายสามารถบังคับใช้ได้อย่างจริงจัง
บริษัทประกันต้องเร่งฟื้นฟูความไว้วางใจ
ส่วนประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมทางการเงินทุกครั้ง

เมื่อทุกฝ่ายร่วมมือกัน ความเชื่อมั่นในระบบประกันภัยไทยก็จะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง—แม้ต้องเริ่มจากบทเรียนที่ราคาแพงก็ตาม

Loading

RELATED ARTICLES
BAM
previous arrow
next arrow

Most Popular

PDPA Icon

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ เราใช้คุกกี้ คุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ของคุณได้ที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

บันทึกการตั้งค่า