บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 สะท้อนภาพธุรกิจฟื้นตัวแข็งแรงท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน โดยมีรายได้รวม 34,501 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิปรับปรุง (ไม่รวมค่าใช้จ่าย Transformation) 1,516 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิตามงบประกาศอยู่ที่ 1,304 ล้านบาท ดันกำไรต่อหุ้นขยายตัวถึง 12.1% จากปีก่อนหน้า

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 สะท้อนถึง “ความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับตัวของไทยยูเนี่ยน” โดยมี อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19% แม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน “เรายังเห็นสัญญาณการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านปริมาณการขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่อยู่ในระดับมั่นคง แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์การบริหารธุรกิจของเรากำลังเดินมาถูกทาง”
สำหรับกลุ่มธุรกิจหลัก
อาหารทะเลแปรรูป ยอดขายลดลง 3.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน
อาหารทะเลแช่แข็ง ยอดขายเติบโต 5.1% และทำกำไรขั้นต้นสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาสที่ 13.8%
อาหารสัตว์เลี้ยง ยอดขายเติบโต 6.2% (เงินบาท) และ 14.2% (ดอลลาร์สหรัฐ) จากยอดขายแข็งแกร่งในสหรัฐฯ และยุโรป
ขณะเดียวกัน บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูงถึง 4,127 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ตอกย้ำฐานะการเงินแข็งแกร่ง และรักษาอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุนไว้ที่ 1.1 เท่า รวมถึงได้รับการจัดอันดับเครดิตจาก ทริสเรทติ้งระดับ “A+” แนวโน้มคงที่ (Stable)
ด้านโครงการ Transformation โดยเฉพาะ Project Sonar และ Project Tailwind ยังคงเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพองค์กร มุ่งสู่เป้าหมายปี 2573 แม้มีผลต่อกำไรระยะสั้น แต่คาดว่าค่าใช้จ่ายจะทยอยลดลงตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป โดยไทยยูเนี่ยนตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายสุทธิ 118 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสร้างความโดดเด่นในตลาดทุนด้วยการระดมทุน “Blue Finance” มูลค่ารวมกว่า 24,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ผสาน Blue Bond เข้ากับ Sustainability-Linked Bond ในธุรกรรมเดียวกัน ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม มียอดจองซื้อสูงถึง 3.68 เท่าของเป้าหมาย
นายธีรพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรากำลังก้าวเข้าสู่ช่วงปิดปีด้วยความแข็งแกร่ง และพร้อมสร้างรากฐานเพื่อการเติบโตในปี 2569 ไทยยูเนี่ยนมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล (Marine Health and Nutrition) เพื่อส่งมอบคุณค่าทั้งต่อผู้บริโภคและมหาสมุทรของเรา”
![]()














